ถ้าให้เราส่องกระจก เราจะมองแค่ตัวเอง และรู้สึกว่าเราดูดีแล้ว แต่ว่าหลังจากที่โอ๊ตส่งการบ้าน Writing ให้อาจารย์ช่วยตรวจ ก็ทำให้รู้ว่าเราเขียน Off topic เขียนนอกเรื่อง อ่อนเรื่องของคำศัพท์ เพราะฉะนั้น Feedback จากอาจารย์ช่วยให้โอ๊ตพัฒนาตัวเองได้เยอะขึ้นมากครับ
หลังจากถูกระงับผลสอบ IELTS ถึง 2 เดือน (being withheld) “โอ๊ต ชุติพนธ์ โมรานนท์” ที่สอบ IELTS เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 61 ก็ได้รับแจ้งข่าวดีแล้วค่ะว่าตัวเองสอบได้คะแนน IELTS overall 7.0 (Listening 8.0, Reading 8.0, Writing 6.0, Speaking 5.5) ทำไมโอ๊ตถึงถูกระงับผลสอบ? แล้วโอ๊ตทำอย่างไรเมื่อเจอกับเหตุการณ์นี้? วันนี้โอ๊ตจะมาแชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เพื่อนๆได้อ่านกัน รวมถึงข้อสันนิษฐานที่โอ๊ตคาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ถูกชะลอผลสอบในครั้งนี้ค่ะ
Q: ได้ข่าวมาว่าโอ๊ตสอบ IELTS เพราะอยากท้าทายความสามารถของตัวเองแค่นั้นเลยหรอคะ
A: ใช่ส่วนนึงครับ ตอนสมัครเข้าทำงานที่ Siemens โอ๊ตสอบโทอิคได้ 780 ซึ่งถือว่าเยอะแล้วในตอนนั้น แต่ที่สอบ IELTS เพราะอยากท้าทายความสามารถของตัวเอง และอีกเหตุผลหนึ่งเป็นเรื่อของงานครับ ตอนนี้โอ๊ตทำงานเป็นวิศวกรไฟฟ้าเกี่ยวกับระบบรางรถไฟ (railway engineering) และต้องดีลโปรเจ็คงานกับบริษัทสิงคโปร์เป็นหลัก ซึ่งเขาค่อนข้างเลือกคนที่จะไปออกไซด์งานที่ต่างประเทศกับทีมของเขา ซึ่งเขาจะเลือกจากพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษเก่ง และมีความตั้งใจสูงในการทำงาน วันดีคืนดีเกิดโอ๊ตคุยกับเขา แล้วเขาถามว่าโอ๊ตมีคุณสมบัติอะไรที่เขาควรต้องเลือก โอ๊ตก็จะเอา certificate จากการสอบ IELTS ที่ได้คะแนน 7.0 เนี่ยแหล่ะไปให้เขาดู เพื่อการันตีว่าโอ๊ตมีความสามารถทางภาษาอังกฤษจริงๆ ตามที่เขาต้องการ หรือถ้าในอนาคตจะไปเรียนต่อ โอ๊ตก็มีคะแนนพร้อมไปได้เลย สอบไว้ตั้งแต่ตอนนี้ก็ไม่เสียหายอะไรครับ
Q: แต่กว่าจะทราบคะแนนก็ผ่านไปนานถึง 2 เดือนเลยทีเดียว เพราะผลสอบ IELTS ถูกระงับ (being withheld) มันเกิดอะไรขึ้นคะ แล้วโอ๊ตดำเนินการอย่างไรพอเจอเหตุการณ์แบบนี้
A: ผมสอบ IELTS ที่ศูนย์สอบ IDP ครับ ซึ่งปกติแล้วทุกคนจะได้ผลคะแนนหลังจากสอบไปแล้ว 13 วัน แต่โอ๊ตกลับได้อีเมลแจ้งว่าผลสอบถูกระงับ โอ๊ตพยายามส่งอีเมลกลับไปถามที่ IDP ตลอดว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเมื่อไหร่จะทราบผลคะแนน แต่ทุกครั้งที่ได้รับแจ้งกลับมาก็แค่คำตอบแบบหุ่นยนต์ ส่วนเจ้าหน้าที่ของ IDP บอกให้รออย่างเดียวเลย เดาว่าน่าจะเป็นเพราะโอ๊ตได้คะแนนรอบนี้สูงกว่า 2 ครั้งแรกที่เคยสอบก่อนมาเรียนที่นี่อิงลิชพาร์คค่ะ ซึ่งตอนนั้นได้แค่ 6.0 เองครับ
Q: โอ๊ตได้คะแนน IELTS Reading กับ IELTS Listening 8.0 ซึ่งสูงมาก แต่ทำไม Writing ได้ 6.0 และ Speaking ได้แค่ 5.5 เองล่ะคะ
A: ผมเดาว่าที่ถูกระงับผลสอบเพราะคะแนนพาร์ท Writing กับ Speaking มันห่างจากพาร์ท Reading และ Listening เยอะมากนี่แหล่ะครับ เลยทำให้ดูน่าสงสัยว่าผมอาจจะโกงข้อสอบหรือเปล่า เพราะโดยปกติแล้วผู้สอบควรจะได้คะแนนในแต่ละพาร์ทใกล้เคียงกัน
ผมมั่นใจกับคะแนน Reading และ Listening มาก เพราะเท่าที่ฝึกทำข้อสอบ และ Mock-up Test ก็ได้คะแนนประมาณนี้ หลังเลิกงานผมมาฝึกทำข้อสอบที่ English Parks อาทิตย์ละ 2-3 วัน แล้วขอการบ้านกลับไปทำเพิ่มเติมด้วย
แต่แอบตกใจกับคะแนน Writing ที่ได้ 6.0 เพราะครั้งนี้โอ๊ตจัดเต็มมาก เขียนทัน คำครบ แต่คะแนนกลับไม่ดี คิดว่าอาจจะเขียน off topic ส่วน Speaking โอ๊ตตื่นเต้นจนพูดรัวไปหมด พูดไม่เป็นธรรมชาติ แถมตอบคำถามไม่ครบด้วยครับ
Q: อะไรทำให้โอ๊ต ตัดสินใจมาเรียนที่ English Parks คะ
A: ก่อนหน้านี้โอ๊ตสอบ IELTS มาแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังได้ 6.0 เท่าเดิม ทำยังไงคะแนนก็ไม่เพิ่ม โอ๊ตเลยลอง search google หาที่เรียน แล้วบังเอิญไปเจอเรื่องของนักเรียนทุน Chevening ที่เขาแชร์ประสบการณ์เรื่องสมัครทุนไว้ใน Blog เขาเขียนบอกว่าเขาเรียนพิเศษที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่สามารถเข้าไปทำข้อสอบได้ทุกวัน พอได้อ่านตรงนี้ก็รู้สึกสนใจมาก เพราะโอ๊ตเป็นคนที่ชอบฝึกนอกห้องเรียนมากกว่าที่จะเรียนแค่ในห้องเรียนอย่างเดียว โอ๊ตเลย direct message ถามเขาทาง Facebook ว่าเรียนที่ไหน ซึ่งเขาบอกว่าเรียนที่อิงลิชพาร์ค โอ๊ตเลยเข้ามาเทสต์แล้วสมัครเรียนที่นี่ครับ
Q: บรรยากาศการเรียนที่อิงลิชพาร์คเป็นอย่างไรบ้างคะ
A: ครั้งแรกที่มาเรียน โอ๊ตมองบรรยากาศในห้องก่อนเลยว่าเพื่อนๆ เป็นยังไงบ้าง ซึ่งเพื่อนๆที่นี่ดีมากครับ แล้วโอ๊ตได้สร้าง networking กับพี่ๆเพื่อนๆในห้อง เพื่อช่วยกันเรียนด้วยครับ ส่วนเรื่องของอาจารย์ โอ๊ตค่อนข้างประทับใจมาก เพราะอาจารย์มีความ active แล้วให้เทคนิคในการทำข้อสอบเยอะมาก
Q: แล้วได้เทคนิคอะไรบ้างจากการเข้าเรียนคลาส IELTS คะ
A: โอ๊ตได้เทคนิคการทำข้อสอบจากการมาเรียน IELTS ที่อิงลิชพาร์คเยอะมาก ทั้งการ Skimming, Scanning และการหา Key words ที่ทำให้โอ๊ตหาคำตอบได้เร็วขึ้นครับ
Q: การที่อาจารย์และพี่ๆสต๊าฟคอยให้ Feedback เรื่องการเรียนของโอ๊ตอยู่ตลอด มีส่วนช่วยโอ๊ตให้ประสบความสำเร็จในการสอบอย่างไรบ้างคะ
A: ถ้าให้เราส่องกระจก เราจะมองแค่ตัวเอง และรู้สึกว่าเราดูดีแล้ว แต่ว่าหลังจากที่โอ๊ตส่งการบ้าน Writing ให้อาจารย์ช่วยตรวจ ก็ทำให้รู้ว่าเราเขียน Off topic เขียนนอกเรื่อง อ่อนเรื่องของคำศัพท์ เพราะฉะนั้น Feedback จากอาจารย์ช่วยให้โอ๊ตพัฒนาตัวเองขึ้นเยอะมากครับ รวมถึงเวลาที่ฝึกทำ Listening และ Reading นอกเวลา พี่ๆจะคอยช่วยเตือนให้ระวังเวลาที่เขียนคำตอบ โดยเฉพาะเรื่องตัวสะกด คำเอกพจน์ พหูพจน์ เติม s ไม่เติม s และได้คำแนะนำดีๆในการสอบ Speaking ด้วยว่า ถ้าเจอคำถามแนวนี้ ควรตอบให้เหตุผลยังไง หรือไอเดียไหนดีหรือไม่ดี พี่ๆก็คอยช่วยตลอดครับ
Q: โอ๊ตนำสิ่งที่ได้เรียนไปประยุกต์ใช้กับการทำงานอย่างไรบ้างคะ
A: ก่อนหน้านี้เวลาที่โอ๊ตเขียนอีเมล ภาษาที่ใช้มันจะทื่อๆแข็งๆ ไม่ค่อยสละสลวย แต่ตอนนี้โอ๊ตเขียนได้ดีขึ้นเยอะมาก คือ เขียนประโยคได้ยาวขึ้น มีส่วนขยาย แล้วก็มีการใช้ transition words ด้วย และจากการที่ได้ฝึก Listening บ่อยๆ ทำให้โอ๊ตมั่นใจว่าสามารถฟังสิ่งที่คนต่างชาติพูดได้อย่างชัดเจน ไม่ต้องมาคอยพูดว่า “sorry, could you please say it again?” เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ซึ่งช่วยให้ดีลงานกับคนสิงคโปร์ง่ายขึ้น
นอกจากนี้โอ๊ตยังมีหน้าที่สอนงานให้กับน้องๆ ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ด้วย โอ๊ตต้องอ่านคู่มือที่เป็นภาษาอังกฤษและสรุปเองทั้งหมด เพื่อไปสอนน้องๆ ครับ ซึ่งนี่เป็นการพิสูจน์ให้เห็นเลยว่าถ้าภาษาอังกฤษเราดี มันเหมือนเป็นการเปิดประตูให้เรามีโอกาสได้ร่วมงานกับบริษัทในระดับที่เป็น International มากขึ้นและยังช่วยให้เราก้าวหน้าในหน้าที่การงานด้วยครับ
หมายเหตุ: ผลสอบของนักเรียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบด้วย อย่างไรก็ตามทางอิงลิชพาร์คพร้อมดูแลและช่วยให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียนตามเป้าหมายที่วางไว้ค่ะ