เจ้าจะมีปัญหาเรื่องWriting ที่นี่ก็มีหัวข้อให้ฝึกหลายหลาย มีอาจารย์ให้คำแนะนำ หรือจริงๆ เจ้าไม่ใช่คนพูดภาษาอังกฤษได้ดี แต่ก็พัฒนาขึ้นจากการมาเรียนที่ English Parks นี่แหละค่ะ
มีบทสัมภาษณ์คุณเจ้ามาให้อ่านกันอีกแล้วค่ะ แต่คราวนี้มา update กันเรื่องคะแนน IELTS จากเดิมที่เคยสัมภาษณ์กันไปครั้งนึงแล้วตอนที่คุณเจ้าสอบ TOEIC ได้คะแนนสูงถึง 825 คะแนน
วันนี้คุณเจ้าไปสอบ IELTS มา ได้คะแนน Overall 6.5 และทุก Skill ได้ 6.0 ขึ้นไปตามที่วางแผนไว้แล้วค่ะ ทางโรงเรียนขอแสดงความยินดีด้วยอีกครั้งนะคะ สมกับความมุ่งมั่นตั้งใจในการเรียนเลยค่ะ 😀 😀
Q: เพิ่งได้สัมภาษณ์กับคุณเจ้าไปเมื่อไม่นานมานี้เอง ตอนที่คุณเจ้าสอบ TOEIC ได้ 825 คะแนน จนตอนนี้ได้คะแนน IELTS มาเพิ่มแล้ว
A: ใช่ค่ะ จากตอนนั้นช่วงที่สอบ TOEIC เสร็จ ก็เรียนคอร์ส Unlimited ต่อเนื่องมาเลยจนถึงตอนนี้ก็ประมาณ 4 เดือนแล้วค่ะ
.
Q: ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นคุณเจ้าเตรียมตัวกับการ สอบ IELTS มาขึ้น การเตรียมตัวช่วงนี้ผ่านมาเป็นยังไงบ้างคะ
A: ก็จริงจัง + ซีเรียส กว่าเมื่อก่อนเยอะเลย เพราะก็รู้อยู่ก่อนแล้วว่าข้อสอบ IELTS ยากกว่า TOEIC มากๆ แต่ในส่วนการเข้าคลาสเรียนก็ไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ ก็เข้าเรียนตามโปรแกรม Unlimited เหมือนเดิม แต่เรียกว่าตั้งใจมากกว่าเดิม เพราะครั้งนี้ตั้งใจไปสอบ IELTS จริงๆ ละ
.
Q: นอกเหนือจากการเรียนตามปกติ และความตั้งใจที่มากขึ้น สิ่งที่เห็นได้ชัดอีกอย่างเลยก็คือใส่ใจกับการฝึกฝนนอกห้องเรียนมากขึ้นใช่หรือเปล่าคะ
A: ใช่แล้วค่ะ อย่างเรื่องWriting จากแต่ก่อนไม่ทำส่งเลย ก็ทำพยายามเขียนส่งเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากช่วงแรกตัวเราเองก็ไม่มีความมั่นใจในการเขียน แต่ช่วงหลังๆ ก็เริ่มทำ เริ่มเขียนส่ง เริ่มลองทำตามคำแนะนำที่ได้จากการเรียนในห้องเรียน และบวกกับพื้นฐานที่เคยเรียน Sentence writing มาก่อนหน้านี้ก็ช่วยได้เยอะเลยค่ะ
ซึ่งจริงๆ ตัวเจ้าเองก็เข้าเรียน Academic Writing มาเรื่อยๆ เหมือนกัน และอาจารย์ก็สอนก็แนะนำวิธีเขียนให้ตลอด แต่พอต้องเขียนเองจริงๆ มันไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงค่ะ ไม่รู้ว่าควรจะเอาไอเดียตรงไหนมาเขียน พอเขียนออกมาเรารู้สึกว่ามันไม่ดีเลย
อย่างเรื่องกราฟใน IELTS Task 1 จะยากสำหรับเจ้านะ ถึงมันจะมีข้อมูลให้มา แต่ก็ยังกังวล จะเขียนยังไงดี ลำดับเนื้อหายังไง แต่พอตั้งใจจะสอบ IELTS ก็เริ่มต้นเขียนจริงๆ จังๆ งานเขียนก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ
Q: จากการที่เริ่มส่ง Writing คุณเจ้าได้ประโยชน์อะไรจากตรงนี้บ้างคะ จะได้แชร์ให้เพื่อนๆ ให้เขียนส่งกันมากขึ้น
A: พอได้เขียนส่ง อาจารย์ก็จะตรวจให้ แล้วก็ปรับแก้รวมถึงให้คำแนะนำต่างๆ เพื่อให้เขียนได้ดีขึ้น อย่างเช่น เจ้าเขียนมาแล้วตรงไหนผิด ควรใช้โครงสร้างยังไง อาจารย์ก็จะแก้ใหม่ เจ้าก็จะจำได้ละว่าถ้าเจอคำนี้ควรจะใช้อะไรต่อ ซึ่งมีประโยชน์มากๆ ค่ะ นอกจากนั้น เจ้าก็ได้เข้าเรียนคลาส Collocation เพิ่มเติม ซึ่งถือว่ามีประโยชน์กับคนที่จะเตรียมสอบ IELTS มาก เพราะช่วยให้ใช้คำศัพท์ได้อย่างถูกต้อง และการใช้ภาษาอังกฤษที่ก็ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งหลังจากที่ส่งงานเขียนเพิ่มเติมมาซักพัก เราก็เห็นว่า จุดที่ผิดมันน้อยลงเรื่อยๆ ตรงนี้ก็ช่วยให้เรามั่นใจมากขึ้นด้วยค่ะ
.
Q: ในความเห็นคุณเจ้า Listening กับ Reading ของ IELTS แตกต่างกับ TOEIC ที่เราเคยสอบมามากน้อยแค่ไหนคะ
A: ไม่เหมือนกันนะ ที่ชัดเจนเลยคือ Reading ของ IELTS ศัพท์ยากกว่าและเนื้อหาก็ยาวกว่า Reading ของ TOEIC มาก และต้องแข่งกับเวลาด้วย ดังนั้นอาจารย์ก็จะย้ำตลอด แบบอ่านตรงนี้ต้องรู้ว่า Topic sentence คืออะไร หัวประโยคท้ายประโยค กำลังพูดถึงเรื่องอะไร การอ่าน Skim Scan ยังไง หาศัพท์ยังไง เพื่อทำข้อสอบให้ถูกมากที่สุด แล้วหัวข้อของ IELTS มันก็ค่อนข้างหลากหลาย การที่เจ้าได้เข้าเรียนเยอะๆ ก็ทำให้ได้ศัพท์จากเรื่องต่างๆ เพิ่มมาด้วย
.
Q: แล้วก่อนที่คุณเจ้าจะไปสอบ IELTS มีเตรียมตัวยังไงอีกบ้าง
A: ก็มาทำ Mock-up test ที่โรงเรียนค่ะ ตั้งเป้าไว้ว่าจะสอบให้ได้ 6.5 แต่ตอนช่วงมาฝึกทำข้อสอบจะเห็นว่าคะแนนก็จะแกว่งๆ บ้าง เพราะบางที Reading กับ Listening ก็ได้ 6.5-7.0 แต่ถ้า เจอหัวเนื้อเรื่องที่ไม่ถนัด ไม่ค่อยเข้าใจ ก็จะทำได้น้อยลง ในส่วนของ Writing ที่เขียนส่ง ช่วงแรกๆ คะแนนที่อาจารย์ประเมินมาก็ อยู่ที่ 5.0-5.5 จากนั้นก็ปรับแก้ เรื่อยๆ คะแนนก็ดีขึ้นค่ะ
.
Q: แล้ว Part speaking มีการเรียน เพื่อเตรียมตัวสอบยังไงบ้างคะ
A: ชอบคลาส IELTS Speaking ของอาจารย์แก้วมากค่ะ อาจารย์จะโฟกัสเป็นคนๆ เลย และอาจารย์ก็จะจำได้ด้วยว่า แต่ละคนมีปัญหาเรื่องอะไร และจะให้คำแนะนำสิ่งที่เราจะต้องไปทำเพิ่มเติม เช่น อาจจะไปฟัง Topic บางเรื่องเพิ่มขึ้น เพื่อให้เรามีแนวทาง ที่จะตอบได้หลากหลายค่ะ
การเรียน Speaking ของอาจารย์คนอื่นๆ ก็ช่วยสำหรับ IELTS ด้วยนะคะ อย่างคลาส Story Telling ของ Greg ก็สามารถนำมาใช้ใน IELTS Part 2 ได้ด้วย อาจารย์จะสอนว่าควรขึ้นด้วยคำนี้ ประโยคนี้ บางครั้งเราติดคิดไทยเป็นอังกฤษ อาจารย์ก็จะแก้ให้ ว่าควรพูดประโยคแบบไหนยังไง
.
Q: ตอนที่ไปสอบ IELTS จริงๆ บรรยากาศป็นยังไงบ้าง รบกวนแชร์ให้เพื่อนๆ นิดนึงค่ะ
A: ตื่นเต้นสุดๆ ค่ะ บรรยากาศไม่เหมือนตอนเราทำ Mock-Test เลย คนก็มาจากหลายๆ ที่ ตอนทำข้อสอบ Listening มีหลุดไปช่วงนึงต้องรีบดึงสมาธิกลับมา แต่ Reading ก็ไม่มีปัญหาทำได้ทันเวลา
ส่วน Writing ถือว่ายากเลย เพราะ Task 1 หัวข้อค่อนข้างยากสำหรับเจ้า ใช้เวลาไป 30 นาที ทั้งที่ควรจะใช้ไม่เกิน 20 นาที ในส่วนของ Task 2 ก็พยายามเขียนตามรูปแบบที่เรียนจากที่อิงลิชพาร์ค ก็เขียนจนจบทันเวลาพอดี แต่พาร์ท Speaking แอบเจอ Examiner ที่เคี่ยวนิดนึง แต่ก็พยายามหยิบเทคนิคที่เรียนจากที่นี่เข้าช่วยจนผ่านมาได้ค่ะ
.
Q: คะแนน IELTS ที่ได้มาเป็นยังไงบ้างคะ แล้วพอใจกับผลตรงนี้แล้วหรือยัง
A: ได้ Overall 6.5, Listening 6.0, Reading 7.0, Writing 6.0, Speaking 6.0
ตอนแรกคิดว่า Writing กับ Speaking อาจจะได้น้อยกว่านี้ แต่พอคะแนนออกมาได้ขนาดนี้ก็ดีใจแล้ว ซึ่งก็ผ่านเกณฑ์ที่ต้องการแล้วด้วย โดยทุก Part ก็มากกว่า 6.0 ก็คิดๆ นะถ้าไปสอบ อีกทีน่าจะตื่นเต้นน้อยลงละ น่าจะได้คะแนนเยอะกว่านี้ด้วย
.
Q: ประทับใจกับการเรียนที่ English Parks ยังไงบ้างค่ะ เพราะคุณเจ้าถือว่าเป็นนักเรียนคนนึงที่เรียนกับทางโรงเรียนมานานเหมือนกัน
A: ชอบเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันมากๆ ทั้งที่ก่อนเรียนก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน และต่างคนก็มีจุดมุ่งหมายที่จะสอบ IELTS เหมือนกัน เราก็คุยแลกเปลี่ยนไอเดียกัน พี่ๆ ที่นี่ก็ช่วยเรื่องการบ้าน นัดให้มาฝึกเทส ชอบที่นี่มากๆ เลยค่ะ
สำหรับคนที่จะไปสอบ IELTS แนะนำให้ลองฝึกทำข้อสอบดู เพื่อให้รู้ว่าตัวเองยังไม่ได้ตรงไหน อย่างเจ้าจะมีปัญหาเรื่องWriting ที่นี่ก็มีหัวข้อให้ฝึกหลายหลาย มีอาจารย์ให้คำแนะนำ หรือจริงๆ เจ้าไม่ใช่คนพูดภาษาอังกฤษได้ดี แต่ก็พัฒนาขึ้นจากการมาเรียนที่ English Parks นี่แหละค่ะ ^____^
หมายเหตุ: ผลสอบของนักเรียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบด้วย อย่างไรก็ตามทางอิงลิชพาร์คพร้อมดูแลและช่วยให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียนตามเป้าหมายที่วางไว้ค่ะ