สรุปข้อมูลทุนเรียนต่อต่างประเทศ พร้อมทริคการเตรียมตัวเพื่อพิชิตทุนเรียนต่อ
ทุนเรียนต่อต่างประเทศ เป็นอีกหนึ่งความฝันและเป้าหมายยอดนิยมของใครหลายคน เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้แล้วทุนเรียนต่อต่างประเทศยังเป็นการเปิดโอกาสอีกมากมายในชีวิตไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการศึกษา โอกาสในการทำงาน รวมไปถึงโอกาสในการพัฒนาตัวเอง ดังนั้นบทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับทุนเรียนต่อต่างประเทศมาฝาก ไม่ว่าจะเป็นประเภทของทุน วิธีการเตรียมตัวสำหรับการขอทุนเรียนต่อต่างประเทศ และอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าอยากรู้กันแล้วว่าควรจะเตรียมตัวยังไงให้สอบชิงทุนไปต่างประเทศได้ ก็ไปดูข้อมูลพร้อมกันเลย
ทำความรู้จัก 4 ประเภทของทุนเรียนต่อต่างประเทศ
ปัจจุบันทุนเรียนต่อต่างประเทศนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งประเภทของทุนก็ยังเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรจะต้องพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจไปเรียนต่อในต่างประเทศ ดังนั้นก่อนที่จะไปรู้จักวิธีการเตรียมตัวเพื่อสอบชิงทุน มาศึกษาประเภทของทุนเรียนต่อต่างประเทศกันก่อนดีกว่า โดยรูปแบบของทุนเรียนต่อต่างประเทศมีดังนี้
ทุนเรียนต่อต่างประเทศแบบเต็มจำนวน
ทุนแบบเต็มจำนวน เป็นทุนเรียนต่อต่างประเทศประเภทหนึ่งที่เป็นเป้าหมายของใครหลายคน เพราะทุนประเภทนี้เป็นทุนที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าตัวเครื่องบินไป-กลับ, ค่าเล่าเรียน, ค่าที่พัก รวมไปถึงค่าใช้จ่ายรายเดือน ซึ่งถึงแม้ทุนแบบเต็มจำนวนจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเรียนต่อต่างประเทศ แต่ทุนเหล่านี้ก็มักจะมีการกำหนดคุณสมบัติต่าง ๆ ของผู้สมัคร รวมไปถึงมีคู่แข่งเป็นจำนวนมาก ดังนั้นผู้ที่สนใจทุนเรียนต่อแบบเต็มจำนวน ก็ควรจะต้องศึกษารายละเอียดของทุน และเตรียมตัวเป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสสำคัญนี้
ทุนเรียนต่อต่างประเทศแบบให้บางส่วน
ทุนไปเรียนต่างประเทศแบบให้บางส่วน เป็นทุนที่มหาวิทยาลัยในต่างประเทศหรือผู้ให้ทุนมอบให้กับนักเรียนชาวต่างชาติ โดยจะมอบทุนให้เพียงบางส่วนเท่านั้น และผู้ได้รับทุนจะต้องออกค่าใช้จ่ายบางส่วนด้วยตนเอง เช่น ทางผู้มอบทุนหรือมหาวิทยาลัยมอบทุนค่าเล่าเรียนและค่าที่พักให้ ส่วนค่าใช้จ่ายรายเดือนและค่าเครื่องบินไป-กลับ ผู้ได้รับทุนเรียนต่อต่างประเทศจะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง เป็นต้น
ทุนเรียนต่อต่างประเทศแบบมีภาระผูกพัน
ทุนแบบมีภาระผูกพัน เป็นทุนศึกษาต่อต่างประเทศที่ผู้ให้ทุนมีการกำหนดเงื่อนไขบางอย่างไว้ โดยผู้ได้รับทุนจะต้องทำตามเงื่อนนั้น ๆ มิเช่นนั้นก็อาจจะไม่ได้รับทุนต่อหรือต้องชำระค่าปรับให้แก่ผู้มอบทุน โดยเงื่อนไขที่เรามักจะเห็นกันได้บ่อย ๆ ก็มักจะเป็นการกลับมาทำงานในองค์กรหรือประเทศของผู้มอบทุนหลังจากผู้ได้รับทุนสำเร็จการศึกษา หรือการกำหนดระดับผลการเรียนของผู้รับทุนให้อยู่ในเกณฑ์ เป็นต้น
ทุนเรียนต่อต่างประเทศแบบไม่มีภาระผูกพัน
ทุนแบบไม่มีภาระผูกมัด เป็นทุนเรียนต่อต่างประเทศที่มีลักษณะให้เปล่าโดยที่เจ้าของทุนไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใด ๆ ให้แก่ผู้ได้รับทุน ดังนั้นทุนประเภทนี้จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เป็นเป้าหมายของใครหลายคนเช่นเดียวกับทุนแบบเต็มจำนวน ผู้ที่สนใจทุนเรียนต่อต่างประเทศแบบไม่มีภาระผูกพัน จึงควรที่จะต้องเตรียมพร้อมทั้งคะแนนสอบภาษาอังกฤษ และการพัฒนาตนเองให้ตรงกับคุณสมบัติที่ผู้มอบทุนกำหนด เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับทุน
มัดรวม 5 ทุนเรียนต่อต่างประเทศแบบไม่มีข้อผูกมัด ใครอยากโกอินเตอร์ห้ามพลาด!
ใครที่กำลังวางแผนขอทุนเรียนต่อต่างประเทศอยู่ แต่ยังไม่รู้ว่ามีทุนเรียนต่อใดบ้างที่ไม่มีข้อผูกมัด บทความนี้ก็ได้รวบรวม 5 ทุนเรียนต่อต่างประเทศแบบไม่มีข้อผูกมัดพร้อมข้อมูลเบื้องต้นของทุนนั้น ๆ มาฝากให้พิจารณากันก่อนตัดสินใจขอทุน จะมีทุนอะไรบ้างไปดูกันได้เลย
ทุน Erasmus Mundus
ทุน Erasmus Mundus ถือเป็นทุนที่คนอยากเรียนต่อปริญญาโทในสหภาพยุโรปจะไม่รู้จักไม่ได้ เพราะทุน Erasmus Mundus เป็นทุนของโครงการสหภาพยุโรปหรือ EU ที่ให้ทุนเรียนต่อระดับปริญญาโทสำหรับนักศึกษานอกเขตสหภาพยุโรปและยังเป็นทุนที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายจำเป็นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่าเล่าเรียน, ค่าประกันสุขภาพ, ค่าธรรมเนียมห้องสมุดและห้องปฏิบัติการ, ค่าเดินทาง, ค่าเครื่องบินรวมไปถึงค่าใช้จ่ายรายเดือน
โดยเกณฑ์การสมัครของทุน Erasmus Mundus นั้นผู้สมัครจะต้องจบปริญญาตรีและมีประสบการณ์ในการทำงานเกี่ยวข้องกับสาขาที่เลือกศึกษาต่อ นอกจากนี้จะต้องมีผลการสอบ IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.0 และเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.50
ทุน Monbukagakusho หรือ MEXT
ทุน Monbukagakusho หรือทุนมงเป็นทุนเรียนต่อต่างประเทศจากรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น โดยทุนประเภทนี้จะเปิดรับสมัครทุนทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่ ทุนนักศึกษาปริญญาตรี, ทุนนักศึกษาวิจัย ระดับปริญญาโท/ปริญญาตรีเอก, ทุนนักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีและทุนนักศึกษาวิทยาลัยฝึกอบรมวิชาชีพ โดยทุนเรียนต่อของ Monbukagakusho นั้นจะครอบคลุมค่าธรรมเนียมการสมัครเรียน, ค่าเล่าเรียนเต็มจำนวนตลอดหลักสูตรค่า, ครองชีพรายเดือน และค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศญี่ปุ่น
โดยเกณฑ์การสมัครของทุน Monbukagakusho นั้นผู้สมัครจะต้องมีสัญชาติไทย สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้วยเกรดเฉลี่ยสะสมขั้นต่ำ 3.5 จาก 4.00 หรือ มีเกรดเฉลี่ยสะสม 3.30-3.49 จาก 4.00 พร้อมมีผลสอบ JLPT อยู่ในระดับ N1 หรือ N2 หรือจะใช้ผลสอบ EJU วิชาภาษาญี่ปุ่น 200 คะแนนขึ้นไปแทนคะแนนสอบ JLPT ก็ได้เช่นกัน
ทุน Obama Foundation
ทุน Obama Foundation Scholars Program เป็นทุนเรียนต่อต่างประเทศที่สนับสนุนให้นักศึกษาทั่วโลกได้มีโอกาสอบรมและพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำที่มหาวิทยาลัย Columbia ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งทุนดังกล่าวเป็นทุนเต็มจำนวนที่ครอบคลุมค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ, ค่าครองชีพรายเดือนสำหรับใช้จ่ายในเมืองนิวยอร์ก, ค่าที่พัก, ค่าลงทะเบียนเรียนสูงสุด 4 วิชา และค่าประกันสุขภาพ
โดยเกณฑ์การสมัครของทุน Obama Foundation นั้น ผู้สมัครจะจบการศึกษาในระดับใดก็ได้แต่จะต้องมีความเป็นผู้นำหรือตั้งใจจะเป็นผู้นำภายในชุมชน ภูมิภาค หรือประเทศ นอกจากนี้จะต้องมีผลการทดสอบภาษาอังกฤษ เช่น TOEFL IBT ไม่ต่ำกว่า 100 คะแนน, TOEFL PBT ไม่ต่ำกว่า 600 คะแนน, IELTS ไม่ต่ำกว่า 7.0, PTE Academic ไม่ต่ำกว่า 68 คะแนน หรือ Duolingo ไม่ต่ำกว่า 120 คะแนน
ทุน Ivy League Scholarships
ทุน Ivy League Scholarships เป็นทุนสนับสนุนการศึกษาจากกลุ่มมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบไปด้วย Brown University, Columbia University, Cornell University, Dartmouth College, Harvard University, University of Pennsylvania, Princeton University และ Yale University โดยทุน Ivy League Scholarships เป็นทุนการศึกษาที่มอบให้กับนักเรียนที่มีผลการเรียนดีและมีคุณสมบัติตรงตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
โดยผู้ที่สนใจสมัครทุน Ivy League Scholarships จะต้องเป็นผู้มีผลการเรียนโดดเด่นและมีรายได้น้อยตามเกณฑ์ที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดเท่านั้นจึงจะสามารถสมัครรับทุนการศึกษาได้
ทุน Deutscher Akademischer Austauschdienst
ทุน Deutscher Akademischer Austauschdienst หรือรู้จักกันในชื่อทุน DAAD เป็นทุนเรียนต่อต่างประเทศในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกที่มอบให้โดยรัฐบาลประเทศเยอรมัน โดยทุน DAAD เป็นทุนที่มีหลักสูตรให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นด้านศิลปะ, การแพทย์, วิทยาศาสตร์ หรือวิศวกรรมศาสตร์ นอกจากนี้ทุน DAAD ยังเป็นทุนที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายจำเป็นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียน, ค่าประกันสุขภาพ, ค่าที่พัก รวมไปถึงค่าใช้จ่ายรายเดือนที่มีมูลค่าสูงถึง 860 -1,200 ยูโรต่อเดือน
โดยเกณฑ์การสมัครของทุน DAAD นั้น ผู้สมัครจะต้องมีผลการสอบ IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.0 และ TOEFL ไม่ต่ำกว่า 550 นอกจากนี้จะต้องมีประสบการณ์การทำงานในสาขาที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 2 ปี และมีทักษะด้านภาษาเยอรมันตามที่ทุนกำหนด อาทิ DSH 2 หรือ DaF 4 ในระดับ B1
แนะนำคณะที่น่าสนใจในการขอทุนเรียนต่อต่างประเทศ มีคณะไหนบ้างไปดู!
ข้อมูลของทุนเรียนต่อต่าง ๆ อาจจะช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าควรจะไปเรียนต่อที่ประเทศใดดี แต่หลายคนอาจจะยังไม่มีข้อมูลเรื่องคณะหรือสาขาที่ตั้งใจจะไปเรียนต่อ ดังนั้นหัวข้อนี้จึงได้รวบรวมคณะและสาขาที่นิยมให้ทุนมาฝากให้ได้พิจารณากัน โดยคณะที่มหาวิทยาลัยนิยมให้ทุนเรียนต่อต่างประเทศมีดังต่อไปนี้
- STEM Fields (Science, Technology, Engineering, Mathematics) หรือ กลุ่มคณะวิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์
- Business and Economics หรือ กลุ่มคณะบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์
- Healthcare and Medical Studies หรือ กลุ่มคณะสาขาสุขภาพและการแพทย์
- Law and Public Policy หรือ กลุ่มคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์
- Education and Teaching หรือ กลุ่มคณะศึกษาศาสตร์
อยากได้ทุนเรียนต่อต่างประเทศควรเตรียมตัวอย่างไร? แชร์ทริควิธีเตรียมตัวไม่ให้พลาดทุนเรียนต่อ
ทำความรู้จักข้อมูลเกี่ยวกับทุนเรียนต่อต่างประเทศกันไปแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พิชิตทุนเรียนต่อต่างประเทศอย่างที่ตั้งใจไว้ได้นั้นก็คือการเตรียมพร้อม โดยวิธีเตรียมตัวสำหรับการขอทุนเรียนต่อต่างประเทศมีดังนี้
ติดตามข่าวสาร และหาข้อมูลเกี่ยวกับทุนเรียนต่อต่างประเทศ
ขั้นตอนการเตรียมตัวขั้นตอนแรกก่อนการขอทุนไปเรียนต่อต่างประเทศคือ การติดตามข่าวสารและหาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับทุน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของทุน ช่วงเวลาในการเปิดรับสมัคร รวมไปถึงคุณสมบัติของผู้สมัคร เพราะข้อมูลเหล่านี้จะทำให้วางแผนการขอทุนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้สามารถเตรียมเอกสารได้ทันเวลาอีกด้วย
เตรียมคะแนนสอบภาษาอังกฤษ
สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศนั้นก็คือ คะแนนสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราต้องการขอทุนการศึกษา ก็จะยิ่งต้องมีคะแนนสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่อยู่ในระดับที่ดี ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว คะแนนที่ใช้ในยื่นสำหรับการขอทุนเรียนต่อต่างประเทศ มักจะเป็นคะแนน IELTS, TOEFL หรือ PTE ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนด
เพราะฉะนั้น เมื่อทราบแล้วว่าทุนที่สนใจนั้นต้องการผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษประเภทใด ก็ควรจะเตรียมตัวสอบให้พร้อมด้วยการลองทำข้อสอบเก่า หรือใครที่ไม่มีเวลามากนัก การติวสอบกับโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษก็ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
รับทราบเงื่อนไขการสมัครและเตรียมเอกสารให้พร้อม
ก่อนที่จะตัดสินใจสมัครทุนเรียนต่อต่างประเทศ อีกสิ่งหนึ่งที่ควรจะต้องเตรียมตัวก็คือการอ่านเงื่อนไข รวมไปถึงขั้นตอนการสมัครให้ละเอียด จะได้ไม่พลาดขั้นตอนต่าง ๆ ในการสมัคร รวมไปถึงเอกสารสำคัญที่จำเป็น นอกจากนี้ยังควรที่จะเตรียมเอกสารที่ใช้ในการสมัครให้เรียบร้อยก่อนการเปิดรับสมัครอย่างน้อย 1 เดือน เพราะหากเอกสารไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ก็ยังพอมีเวลาให้แก้ไขได้นั้นเอง
สร้างตัวตนให้โดดเด่น
อีกหนึ่งขั้นตอนการเตรียมตัวที่หลายคนอาจจะยังมองข้ามไป ได้แก่ การสร้างตัวตนให้โดดเด่น เพราะในการสมัครขอทุนเรียนต่อต่างประเทศนั้น ย่อมมีคู่แข่งเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในทุนเต็มจำนวนหรือทุนให้เปล่าอีกทั้งบางทุนก็มีเงื่อนไขว่าผู้สมัครจะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับสาขาหรือคณะที่ต้องการจะเรียนต่อ ดังนั้นการหาประสบการณ์ในการทำงานรวมไปถึงการฝึกตอบคำถามให้โดนใจคณะกรรมการจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เราพิชิตทุนเรียนต่อต่างประเทศอย่างที่ตั้งใจไว้ได้
ขอทุนเรียนต่อต่างประเทศ ใช้คะแนนสอบวัดระดับภาษาอังกฤษแบบใดบ้าง หาคำตอบได้ที่นี่
แน่นอนว่าในการสอบทุนเรียนต่อต่างประเทศนั้น จำเป็นจะต้องใช้คะแนนสอบวัดระดับภาษาอังกฤษเป็นเอกสารในการยื่นขอทุน ซึ่งคะแนนสอบที่นิยมใช้ในการยื่นขอทุน และข้อสอบแต่ละรูปแบบมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
IELTS
ข้อสอบ IELTS หรือ International English Language Testing System เป็นข้อสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลจากสถาบันการศึกษากว่า 3,300 แห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยข้อสอบ IELTS จะแบ่งการสอบออกเป็นสองประเภทคือ IELTS General Training และ IELTS Academic Tests
สำหรับผู้ที่ต้องการใช้คะแนน IELTS ในการยื่นสมัครทุนเรียนต่อต่างประเทศก็แนะนำให้สอบ IELTS ประเภท Academic Tests และควรได้คะแนนสอบมากกว่า 7.0 คะแนน ทั้งนี้ข้อสอบ IELTS เป็นข้อสอบที่มีการวัดทักษะด้านการเขียนด้วย ใครที่อยากพิชิตคะแนน IELTS 7.0 ก็สามารถหาคอรส์เรียน Academic Writing เพื่อเพิ่มทักษะการเขียนได้
ซึ่งการสอบ IELTS จะประกอบไปด้วยการวัดทักษะทางภาษาอังกฤษทั้งหมด 4 ทักษะ ได้แก่ ทักษะการฟัง, การอ่าน, การพูด และการเขียน โดยข้อสอบจะมีคะแนนเต็มทั้งหมด 9.0 คะแนน ใช้เวลาสอบทั้งหมด 2 ชั่วโมง 40 นาที คะแนนมีอายุ 2 ปี และสำหรับ IELTS Academic Tests จะมีค่าสอบอยู่ที่ 7,650 บาทเท่ากัน ทั้งการสอบบนกระดาษและการสอบบนคอมพิวเตอร์
TOEIC
ข้อสอบ TOEIC หรือ Test of English for International Communication เป็นการสอบวัดทักษะด้านภาษาอังกฤษสำหรับผู้ต้องการสมัครงานหรือต้องการเรียนต่อในต่างประเทศ ซึ่งข้อสอบ TOEIC เป็นข้อสอบที่วัดทักษะภาษาอังกฤษด้านการฟังและการอ่าน โดยแบ่งออกเป็นสองพาร์ตด้วยกัน ได้แก่ Listening Comprehension พาร์ตนี้จะเป็นการทำข้อสอบพร้อมกับการฟังเสียงจากเทป ใช้เวลาทั้งหมด 45 นาที และพาร์ต Reading Comprehension จะเป็นการวัดทักษะการอ่าน มีเวลาให้ทั้งหมด 75 นาที
ในปัจจุบันข้อสอบ TOEIC มีจำนวนข้อสอบทั้งหมด 200 ข้อ มีคะแนนเต็ม 990 คะแนน ผลคะแนนจะมีอายุ 2 ปี และมีค่าสอบอยู่ที่ 1,800 บาท
TOEFL
TOEFL หรือ Test of English as a Foreign Language เป็นการสอบวัดระดับความรู้ด้านภาษาอังกฤษตามมาตรฐานของอเมริกัน ข้อสอบ TOEFL เป็นข้อสอบสำหรับนักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย โดยข้อสอบ TOEFL มีรูปแบบการสอบถึง 3 รูปแบบได้แก่ TOEFL PBT, TOEFL CBT และ TOEFL IBT
สำหรับผู้ที่ต้องการนำคะแนนไปยื่นเพื่อสมัครทุนเรียนต่อต่างประเทศแนะนำให้สอบ TOEFL แบบ IBT เพราะเป็นข้อสอบที่วัดทักษะด้านภาษาอังกฤษครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทักษะการฟัง, การอ่าน, การพูด และการเขียน ซึ่งการสอบ TOEFL แบบ IBT จะมีคะแนนเต็มทั้งหมด 120 คะแนน ใช้เวลาในการทำข้อสอบทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง – 3 ชั่วโมงครึ่ง ผลคะแนนมีอายุ 2 ปี และมีค่าสอบอยู่ที่ 215 ดอลล่าห์สหรัฐ หรือประมาณ 7,120 บาท
PTE
PTE หรือ Pearson Test of English เป็นข้อสอบวัดความสามารถในการใช้งานภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อต่างประเทศหรือต้องการย้ายถิ่นฐาน ข้อสอบ PTE เป็นข้อสอบที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรกว่า 6,000 แห่งทั่วโลก รวมไปถึงสถาบันการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และไอร์แลนด์ โดยข้อสอบ PTE นั้นจะแบ่งรูปแบบการสอบออกเป็น 3 ประเภทคือ PTE Academic, PTE General และ PTE Young Learner โดยการสอบ PTE แบบ Academic เป็นรูปแบบการสอบที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการนำคะแนนไปยื่นสมัครทุนเรียนต่อต่างประเทศ
ข้อสอบ PTE เป็นข้อสอบที่วัดความสามารถในการใช้งานภาษาอังกฤษจากทักษะทั้ง 4 ทักษะ อันได้แก่ ทักษะการฟัง, การพูด, การอ่าน และการเขียน โดยข้อสอบจะมีคำถามทั้งหมด 52 ข้อ มีเวลาในการทำข้อสอบทั้งหมด 2 ชั่วโมง คะแนนการสอบจะมีอายุ 2 ปีเทียบเท่ากับการสอบรูปแบบอื่น และมีค่าสอบอยู่ที่ 200 ดอลล่าห์สหรัฐหรือประมาณ 6,639 บาท
ติวเข้มทักษะภาษาอังกฤษ เพื่อเตรียมขอทุนเรียนต่อต่างประเทศ ได้กับสถาบันสอนภาษา Englishparks
ทักษะด้านภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ต้องการจะขอทุนเรียนต่อต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการทำข้อสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ การสอบสัมภาษณ์กับคณะกรรมการผู้พิจารณาทุน หรือแม้กระทั่งการสื่อสารในระหว่างที่เรียนอยู่ในต่างประเทศ ดังนั้นผู้ที่ต้องการเตรียมพร้อมทักษะด้านภาษาอังกฤษ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเตรียมตัวอย่างไร การลงคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่สถาบันสอนภาษา Englishparks ก็เป็นอีกแนวทางที่จะช่วยเพิ่มเติมได้ทั้งทักษะการทำข้อสอบ และยังช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของเราให้ดีขึ้นได้
สำหรับใครที่สนใจขอทุนเรียนต่อต่างประเทศ แต่ไม่มีพื้นฐานด้านภาษาอังกฤษมาก่อน ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะที่สถาบันสอนภาษา Englishparks มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอร์สเรียนพูดภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ต้องการเตรียมตัวในการสอบสัมภาษณ์ รวมไปถึงการสื่อสารในระหว่างที่เรียนอยู่ในต่างประเทศ หรือใครที่ต้องการปูพื้นฐานเพื่อสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ ที่ Englishparks ก็มีคอร์สเรียน IELTS และคอร์สติว TOEIC ด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าสามารถเตรียมความพร้อมเพื่อขอทุนเรียนต่อต่างประเทศได้ที่ Englishparks แบบครบจบในที่เดียว
ทุนเรียนต่อต่างประเทศ โอกาสครั้งสำคัญที่จะต่อยอดความสำเร็จให้กับชีวิต
ทุนเรียนต่อต่างประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่จะช่วยต่อยอดความสำเร็จให้กับชีวิตโดยเฉพาะด้านการทำงาน ทั้งนี้การสอบชิงทุนเรียนต่อต่างประเทศนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะการเตรียมเอกสารต่าง ๆ รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมด้านภาษาอังกฤษ สำหรับใครที่กำลังหาทุนเรียนต่อต่างประเทศอยู่ แต่ยังไม่มั่นใจในทักษะด้านภาษาอังกฤษของตัวเอง ก็สามารถเข้ารับการติวเข้มได้ที่สถาบันสอนภาษา Englishparks เพื่อเพิ่มทักษะและพัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของเราให้ดีขึ้นได้