Image Not Found

Aoey IELTS 6.5

อาจารย์สอนดีค่ะ มีอะไรไม่เข้าใจ ก็ปรึกษา ถามได้ตลอด และการตรวจ Writing ก็โหดดี ตอนที่เขียนมาส่งทีแรกก็คิดนะ ได้น้อยจัง แต่ที่เราผิด มันก็ผิดจริง เขาก็ Comment ตรงว่าควรจะปรับอะไรจากนั้นก็พยายามเขียนส่งเรื่อยๆ

IELTS 6.5

Listening
6.0

Reading
6.5

Writing
6.0

Speaking
6.5

น้องเอ๋ย (มัลชรีย์ แสงสว่าง) นักศึกษาชั้นปีที่ 4 MUIC (Mahidol University International College) ที่ถึงแม้จะเรียนหลักสูตร International Program อยู่แล้ว ก็ตัดสินใจสมัครเรียน คอร์ส IELTS ที่อิงลิชพาร์คเพิ่มเติมเพื่อเตรียมควาพร้อมให้มากขึ้นค่ะ

ชื่อเอ๋ยค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ปี 4 MUIC คณะ International Business ค่ะ

เอาตรง ๆ เลย ก็คือ ขี้เกียจอ่านเองค่ะ แล้วก็อยากได้เทคนิคในการทำ ข้อสอบ IELTS ด้วย คิดว่าตรงนี้ถ้าเราได้เรียน น่าจะได้คะแนนเยอะขึ้น

การที่เรียน Inter ก็ได้ใช้ภาษาอังกฤษอยู่ทุกวันค่ะ แต่มันก็ไม่ใช่การเอาใช้ในข้อสอบ เราก็อยากได้คำแนะนำจากอาจารย์ อย่างเช่น Writing ควรเขียนยังไง เขียนแล้วต้องปรับแก้ตรงไหนบ้างอะไรทำนองนั้นค่ะ

ตอนแรกวางแผนไว้ว่าอยากเรียนใกล้ๆ บ้าน แถวๆ ศาลายาค่ะ แต่มันก็ไม่มีที่ไหนน่าสนใจเลย แล้วเอ๋ยก็จำได้ว่า ช่วงที่เรียน PC (Pre-College) ที่มหิดล ซึ่งก็หลายปีแล้วค่ะ เอ๋ยเคยมาถามคอร์สที่ English Parks ไว้ ก็เลยลองเข้ามาถามรายละเอียดอีกที พอดูรายละเอียด แล้วก็เรื่องราคา ก็น่าสนใจเลยค่ะ และถ้าดูดีๆ แล้ว จะเห็นว่าราคาจะถูกกว่าที่อื่นด้วย เพราะที่อื่นอาจจะต้องเรียนเป็น Level 1 2 3 สำหรับการสอบ IELTS แต่ที่อิงลิชพาร์คถ้าเช็คพื้นฐานแล้วสามารถเรียน IELTS ได้ ก็เข้าเรียนได้คอร์สเดียวจบเลยค่ะ ไม่ต้องลงแยกหลายคอร์ส เวลาเรียนก็สะดวกด้วย เอ๋ยเลยเลือกเรียนที่ English Parks ค่ะ

แล้วเวลาเรียนก็ค่อนข้างสะดวกด้วย เรียนวันอาทิตย์วันเดียว ก็มีบางสัปดาห์ที่ติดกิจกรรมที่มหาวิทยาลัย แต่รวมๆ ก็มาได้ประมาณนึงค่ะ แล้วถึงแม้ถ้าเราขาดเรียนก็มี self-learning ให้เรียนทบทวนได้ด้วยอยู่แล้วค่ะ

พาร์ท Reading ก็ได้เทคนิคพอสมควรเลยค่ะ อย่างเช่น เมื่ออ่านไปถึงตรงนี้ต้องตอบข้อไหนแล้วบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ่านเพื่อทำข้อสอบ อาจจะไม่จำเป็นต้องเข้าใจเนื้อหา Passage ทั้งหมด และเอ๋ยก็พยายามไม่คิดคำแปลเป็นภาษาไทยตอนทำข้อสอบ เพราะมันทำให้เสียเวลา อ่านเจอคำไหนที่คิดว่าใช่คำตอบก็จับใส่เลยค่ะ

ฟังได้ค่ะ แต่ก็โดนข้อสอบหลอกอยู่เหมือนกัน เพราะปกติการเรียนที่มหาวิทยาลัย ตอนเรียนเราก็นั่งฟังอาจารย์อธิบายไปเรื่อย ๆ เราก็จดตามที่เราจะเข้าใจง่ายๆ ซึ่งเป็นการเข้าใจภาพรวมมากกว่า ที่จะต้องมาฟังจับใจความ detail ต่าง ๆ เพื่อที่จะต้องเติมคำตอบให้ถูกต้องเหมือนในข้อสอบ IELTS ค่ะ

ในการสอบ IELTS ถ้ามีคนช่วยไกด์ให้ ก็ดีกว่าอยู่แล้วค่ะ เพราะถ้าอ่านเอง อาจจะต้องใช้เวลานาน กว่าจะรู้ตัวว่าตอบผิด โดนหลอกยังไง ก็ผ่านการสอบไปแล้ว ซึ่งการมาเรียนถือว่าตัดสินใจถูกต้องเลยค่

จริงๆ ก่อนที่เอ๋ยจะมาเรียนที่นี่ เคยไปสอบ IELTS มาแล้วค่ะ ได้ Writing 5.5 แต่หลังจากเรียนที่นี่ ไปสอบก็ได้คะแนนเพิ่มเป็น 6.0 ค่ะ ก็พัฒนาขึ้น

เราได้รู้ในส่วนที่เราพลาดจากการสอบครั้งก่อนหน้า เช่น ต้องแยก paragraph ในการเขียนซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ในการสอบครั้งแรก เอ๋ยเขียน Task 1 แบบรวดเดียวเลย ไม่แยก Paragraph ไม่มีย่อหน้า ตอนที่เขียนส่งที่นี่ อาจารย์ก็เตือนให้ใส่ย่อหน้าด้วย รวมถึงสอนเรื่องเนื้อหาที่ควรจะเขียนในการตอบคำถามโจทย์แต่ละแบบด้วยค่ะ ของทั้ง Task 1 และ Task 2 ว่าควรจะมีประโยคเริ่มยังไง วิเคราะห์คำถามแต่ละประเภทยังไง

ในส่วนของ Speaking จริงๆ แล้วเวลาที่เอ๋ยเรียนที่มหาวิทยาลัย ก็ไม่ได้คุยภาษาอังกฤษเยอะเลยค่ะ จะได้ใช้ก็แค่ตอน Present งาน Discuss กับอาจารย์นิดหน่อย หรือบางเทอมที่ได้เรียนกับเพื่อนต่างชาติก็ได้คุยบ้าง แต่ก็เป็นการใช้ทั่ว ๆ ไป พอมาเรียนที่อิงลิชพาร์ค อาจารย์จะให้นักเรียนทุกคนจับสลากหัวข้อที่ต้องพูดในห้องเรียนเลยค่ะ ซึ่งบางทีจะเจอคำถามแบบไม่ได้ตั้งตัว คำถามอะไรก็ไม่รู้ เราก็ต้องไปให้ได้ พยายามตอบจนจบ ซึ่งช่วยมากๆ ในการสอบ IELTS เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเจอคำถามแบบไหน ซึ่งก็ต้องพยายามตอบให้ได้ ซึ่งการเรียนในลักษณะนี้ก็ถือว่าเป็นการฝึกที่ดีเลยค่ะ

การมาฝึกทำข้อสอบ IELTS ที่นี่ ช่วยได้เยอะเลยค่ะ เพราะเราจะได้ฝึกการทำข้อสอบยาวๆ รวดเดียว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงต่อครั้ง เพราะถ้าเราทำที่หอเอง บางทีก็จะแอบขี้เกียจค่ะ ^__^”

อย่าง Reading ทำไปแค่ 1 passage แล้วก็หยุดไว้แค่นั้น Writing ก็ขี้เกียจเขียน แต่พอมาทำ Mock-up test มีพี่ๆ ค่อยช่วยจับเวลา ช่วยตรวจ ก็เหมือนกับว่าเป็นการบังคับตัวเราให้ทำข้อสอบให้เสร็จไปในตัวค่ะ ซึ่งก็ทำให้เราพร้อมสำหรับการสอบจริง ซึ่งก็จะเหนื่อยแบบนี้นี่แหละ

แล้วก็ Speaking บางทีเราจะพูดยาว ๆ พูดไปเรื่อย ๆ แต่การมา test กับอาจารย์ที่โรงเรียน ในระหว่างที่เราพูดไปเรื่อย ๆ อาจารย์ก็จะเบรค เพื่อให้เรารู้ว่า กำลังพูดออกนอก Topic ละ เราก็ได้คิดเรื่องการ manage เรื่องมากขึ้น ไม่วกวนไปพูดนอกเรื่อง ซึ่งก็ช่วยทำให้คะแนนดีขึ้นค่ะ

ก็ค่อนข้างเยอะเลยนะคะ เพราะก่อนไปสอบ ก็ทำเล่ม Official ครบเลย แล้วก็ Cambridge เล่ม 9 กับ 10 ด้วย รวมๆ แล้วก็ทำข้อสอบไปประมาณ 10 ชุดค่ะ และถ้าครั้งไหนทำ test แล้วได้คะแนนน้อย ก็จะเอากลับมาแก้ เอามาทวนซ้ำอีกรอบด้วย

ตกใจคะแนน Listening ค่ะ เพราะได้น้อยกว่าที่หวัง ตอนไปทำข้อสอบก็มั่นใจนะ ข้อสอบไม่ได้ยากมาก สอบเสร็จยังออกมาคุยกับเพื่อนเลย ว่าข้อนี้ตอบอะไร ก็ตอบเหมือนกัน ซึ่งมันก็น่าจะถูกสิ แต่ก็อาจจะมีช่วงนึงที่ข้อสอบทำให้เราสับสนนิดนึง กับประโยคที่ได้ยิน ทำให้เอ๋ยพลาดตรงนั้นไป

ส่วน Part อื่นๆ ก็โอเคค่ะ จริงๆ เอ๋ยอยากได้ IELTS Overall ซัก 7.0 แต่คะแนน IELTS 6.5 ก็พอที่จะยื่นเรียนต่อแล้วค่ะ ตอนนี้ก็ดูๆ มหาลัยไว้ที่ เยอรมันเกี่ยวกับทางด้าน Business ค่ะ

อาจารย์สอนดีค่ะ มีอะไรไม่เข้าใจ ก็ปรึกษา ถามได้ตลอด และการตรวจ Writing ก็โหดดี ตอนที่เขียนมาส่งทีแรกก็คิดนะ ได้น้อยจัง แต่ที่เราผิด มันก็ผิดจริง เขาก็ Comment ตรงว่าควรจะปรับอะไรจากนั้นก็พยายามเขียนส่งเรื่อยๆ ครั้งแรกการบ้านที่เขียนส่ง อาจารย์ให้ 4.5 เอง ตอนนี้ประเมินของเอ๋ย 7.0 แล้วค่ะ อีกอย่างเก้าอี้ในห้องเรียนนั่งสบายดีค่ะ

แนะนำให้มาฝึกทำข้อสอบ Mock-up Test ก่อนไปสอบจริงเยอะๆ ค่ะ เพราะถ้ามาลงคอร์สเรียนเฉยๆ แต่ไม่ฝึกทำข้อสอบเลย Reading ผิดตรงไหนก็ไม่ทบทวน ไม่เขียน Writing ส่ง เวลาไปสอบจริงก็จะไม่พร้อม จัดการเรื่องเวลาไม่ดี ทำให้ทำข้อสอบไม่ทันค่ะ ซึ่งการฝึกทำข้อสอบเพิ่มเติมเอ๋ยมองว่าสำคัญมากๆ เลยค่ะ

หมายเหตุ: ผลสอบของนักเรียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบด้วย อย่างไรก็ตามทางอิงลิชพาร์คพร้อมดูแล และช่วยให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียนตามเป้าหมายที่วางไว้ค่ะ