Image Not Found

Doctor Sara IELTS 7.5

สำหรับที่ English Parks เรื่องอาจารย์ผู้สอนทุกคนที่ผมเรียนด้วยเนี่ยครับ เรียกว่าตัวจริง รู้จริง สอนได้จริง และตั้งใจสอนมากกกกก ตั้งใจสอนมากกว่า อาจารย์ประจำ ที่เคยๆ เจอมาบางคนอีก มีการเตรียมพร้อมเอกสาร เนื้อหาการสอนที่ดี การเรียนคลาสกลุ่มเล็กๆ สามารถเข้าถึงได้มากกว่า ถ้าไม่เข้าใจ ก็กล้าถามได้เลย และการมีห้องเรียนหลายๆ ห้องก็สามารถเลือกเข้าเรียนให้เหมาะกับความต้องการของเราด้วยครับ

IELTS 7.5

Listening
8.5

Reading
9.0

Writing
5.5

Speaking
6.0

มาแล้วค่ะ บทสัมภาษณ์สดๆ ร้อนๆ ของพี่หมอสาระ เพิ่งแวะมาถ่ายรูปกันวันนี้เลยค่ะ ขอบคุณพี่หมอที่สละเวลาเข้ามานะคะ ^_^
เรามาดูกันว่าพี่หมอมีการจัดเวลามาเรียนได้อย่างไร ทั้งที่งานปกติก็ยุ่งมากๆ แต่ก็สามารถหาเวลามาเรียนได้ตลอด และพี่หมอมีการเตรียมตัว สอบ IELTS อย่างไร ถึงสอบครั้งแรกแล้วได้ คะแนน IELTS 7.5 เลยค่ะ

ชื่อ สารเศรษฐ์ ทำงานเป็นวิสัญญีแพทย์ ที่โรงพยาบาลศิริราชครับ

เอาจริง ๆ คือโดนบังคับครับ เป็นนโยบายของมหาวิทยาลัยต้นสังกัด ที่ต้องการให้บุคลากรทางสายวิชาการทุกคน มี Certificate ด้านภาษาอังกฤษ จะเป็น TOEFL หรือ IELTS ก็ได้ เพื่อบรรจุเข้าทำงานครับ
และส่วนตัวผมคิดว่าพื้นฐานตัวเองโคตรแย่เลยครับ แย่มากจริงๆ ผมเรียนตั้งแต่โตมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่เคยได้เกรดมากกว่า C เลยครับ ได้ D ไม่ก็ C มาตลอด ตอนประถม ตกยังเคยเลยครับ ต้องเรียนซ่อม เคยทำงานกับฝรั่ง เขายังบอกให้หยุดพูด ให้วาดรูปแทน เพราะคุยไม่รู้เรื่อง

ผมเลือกจากทำเลก่อนเลยครับ เนื่องด้วยการทำงานก็จะมีเวลาจำกัด ถ้าต้องเสียเวลาเดินทางไปสยาม หรืออนุสาวรีย์ คงไม่ทัน และรู้ว่าที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้ามีโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเยอะเลยหาข้อมูลดู หาใน Google, Pantip นี่แหละครับ ที่ English Parks ก็มี Feedback ที่ดี พอเข้ามาคุย เจ้าหน้าที่ก็ให้คำแนะนำที่ดีครับ แล้วก็ไม่ได้แบบอยากได้ลูกค้าจนทำให้เราอึดอัด แล้วตัวคอร์ส Unlimited ก็ดูน่าสนใจดีด้วยครับ เลยลองสมัครเรียนดู

ที่ทำงานขอ IELTS 6.0 ครับ ดูแล้วไม่เยอะมาก แต่ก็กลัวจะไม่ได้ เลยเลือกลง Unlimited English เรียนทุกวัน 6 เดือน บางคนอาจจะคิดว่า ก็ไปลงเรียนแค่เตรียมสอบ IELTS ก็น่าจะพอ แต่ผมรู้สึกว่าพื้นฐานผมก็ไม่ค่อยดี โดยเฉพาะ Grammar ก็อยากเรียนพื้นฐานอื่นๆ ด้วย มากกว่าแค่การมาเก็งข้อสอบ IELTS อย่างเดียว

ก็ต้องคุยกับที่ทำงานครับ แบบขอจัดเวรให้ว่างวันอาทิตย์ เพื่อมีเวลามาเรียน IELTS อย่างเดียวเลยไม่ไปที่อื่น ส่วนวันอื่นๆ แล้วแต่งานครับ ถ้าว่างก็จะพยายามมาเรียนให้ได้ ก็จะได้เรียนคลาสอื่น ๆ ด้วยครับ

คลาสที่มีประโยชน์มากถ้าให้เรียงลำดับ ก็มี Pronunciation ของอาจารย์แบงค์ครับ เพราะว่าสำเนียงของผมห่วยมาก รู้ตัวบ้างครับว่าแย่ แต่พอเรียนแล้วยิ่งรู้ตัวว่าห่วยจริงๆ พอเรียนก็ประทับใจมาก เพราะอาจารย์เป็นคนตั้งใจ ไม่เคยเจอคลาสแบบนี้มาก่อน ไม่ใช่ฟังแค่เสียง ดูกระทั่งปาก ตำแหน่งลิ้น คือดูทุกอย่างเพื่อปรับให้เรามีสำเนียงที่ใกล้เคียงจริงๆ มีสิ่งที่ไม่รู้เกี่ยวกับการออกเสียงเยอะมาก ทำให้เข้าใจเลยว่า เมื่อก่อนทำไมถึงออกเสียงไม่ได้อย่างที่ได้ยินฝรั่งพูดกัน
ถัดมาก็เป็น Sentence Writing ครับ ผมรู้ตัวว่ามีปัญหาเรื่อง Grammar แต่จัดตารางงานมาเรียนตรงนี้ไม่ได้ ทางโรงเรียนแนะนำให้เลยลองโยกมาเรียน Sentence Writing ดู ซึ่งก็เหมือนกับว่าตัวเราได้ทวน Grammar ไปในตัวด้วย อาจารย์ส้มโอก็น่ารักมากครับ ทุ่มเทมาก เล่นตลกให้เด็กไม่เบื่อก็ยอมทำนะ คือความรู้มีแน่ๆ แต่ไม่หยิ่ง ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้นักเรียนเข้าใจ การเรียนในคลาสสนุกมาก ประทับใจเลย
ส่วนคลาส Speaking กับอาจารย์ Greg และ Keith ปกติผมก็ทำงานกับชาวต่างชาติ ก็จะไม่กลัวฝรั่งหรอกครับ กลัวแต่เรื่องคุยกับเขาไม่เข้าใจ แต่อาจารย์ 2 คนนี้ ภาษาไทยค่อนข้างแตกฉาน ถ้าคุยอะไรไปแล้วเขาไม่เข้าใจก็จะลองคุยเป็นภาษาไทย แล้วอาจารย์ก็จะแก้ให้ ว่าควรจะพูดแบบนี้ ควรใช้คำอย่างนี้ ซึ่งผมคิดว่ามันดีมาก แล้วบุคลิกของอาจารย์ก็ไม่ดุเลย ตรงนี้ก็ช่วยให้ไม่รู้สึกกดดันสำหรับนักเรียนบางคนที่อาจจะรู้สึกกลัวๆ ฝรั่งด้วยครับ

คลาส IELTS ที่นี่ได้เรียนครบทุกพาร์ทเลยครับ Listening กับ Reading ช่วงที่ผมเรียนก็ได้เรียนกับอาจารย์ตูน อาจารย์บิว และก็อาจารย์จ๋าย โชคดีมากครับ ผมได้หลายเทคนิคจากอาจารย์แต่ละท่าน เอาตรงๆ ทักษะการอ่านผมก็ค่อนข้างดีอยู่ละ เพราะผ่านการเรียนมาเยอะ แต่การมาเรียน Reading สำหรับ เตรียมสอบ IELTS ก็ทำให้เข้าใจว่า จะหาคำตอบตรงไหน แล้วมั่นใจการเลือกคำตอบมากขึ้น ไม่ใช่มาคิดเอาเองหรือเดาเอาเอง ซึ่งช่วงแรก ๆ ผมก็เลยจะมีปัญหากับการหาคำตอบ True, False, Not given คือผมจะไม่เข้าใจว่าจะคิดยังไง ทำยังไง พอได้เรียนก็ อ๋อ แค่นี้เองเหรอ ก็ช่วยให้ทำคะแนนตรงนี้ได้มากขึ้นครับ ซึ่งก็ช่วยให้ได้คะแนนใน Part Reading เต็ม 9.0 เลย โดยช่วงแรกที่มาเรียน ผมลองทำ Mock-up test ก็ได้คะแนนประมาณ 6-7 เอง ซึ่งถ้าไม่มาเรียนก็คงไม่ได้เท่านี้หรอกครับ
อย่าง Writing ก็อาจจะหายนะได้เลย เพราะข้อสอบของ IELTS ความยากไม่ได้อยู่แค่เรื่อง Grammar หรือ Vocab แต่จะต้องรู้ว่าเขียนยังไงที่จะ Convince คนตรวจให้คล้อยตาม หรือ การตอบคำถามแต่ละแบบ คำถามของ IELTS บางเรื่อง บอกตรงๆ ครับหัวข้อกว้างมาก เรื่องศิลปะ การเมือง การศึกษา เศรษฐกิจ ถ้าไม่เคยฝึก ไม่เข้าใจวิธีการตอบเลยเนี่ย ก็ยากครับที่จะเขียนอะไรลงไป พอได้มาเรียน ถึงเราจะมีความรู้ในด้านนั้นน้อย ก็ยังพอหยิบจับ บางเรื่องบางอย่างมาใส่ มีแนวทางความคิดโครงร่างที่พอจะตอบคำถามได้บ้าง แล้วที่ English Parks มีให้เขียนส่ง Writing ได้ คือส่งแล้วก็ตรวจ อาจารย์ก็ให้คำแนะนำ ก็รู้ว่าผิดตรงนี้บ่อยๆ นะ ควรปรับแก้ยังไง ก็ช่วยได้เยอะครับ

ผมตั้งเป้าไว้ที่ IELTS 6.5 ครับ คะแนนออกมาแบบนี้ก็พอใจมาก ผมกลัว Writing มาก ตอนไปสอบก็ยังกังวล ว่าจะเขียนยังไง มันเป็นบรรยากาศการสอบด้วย คือตอนเรียน ตอนทำ Mock-up test มันไม่กดดันเท่านี้ รู้สึกว่าเรา Drop ลงจากปกติไปนิดนึง ถ้าอนาคตต้องสอบอีกน่าจะทำได้ดีขึ้นครับ

ถามว่าเสียดายมั้ย จริงๆ ก็เสียดายนิดนึงครับ แต่ก็เห็นช่องทางที่จะพัฒนาได้อีก อย่างที่บอกครับ ถ้าไม่มาเรียนที่อิงลิชพาร์คก็คงไม่รู้แนวการเขียน ครั้งหน้าถ้าได้สอบอีก ก็อาจจะตั้งเป้าไว้สูงกว่านี้ ครั้งนี้คะแนนโดยรวมก็พอใจมากๆ ครับ

ต้องมีความกล้าครับ ผมยังรู้สึกว่าน้องๆ ที่เรียนด้วยกันบางคนก็ยังไม่กล้าพูด เรื่อง Speaking ถ้าไม่พูดออกมามันก็ไม่ได้ฝึกอะไร ไหนๆ ก็มีโอกาสได้เจอกับอาจารย์ฝรั่งละ ซึ่งอาจารย์ฝรั่งที่นี่เขาพร้อมที่จะช่วยเหลืออยู่แล้วด้วย ถ้าฝึกมากมันก็จะได้ประโยชน์มากครับ ซึ่งมันจะไม่เหมือนตำราที่ท่องๆ ได้ ในส่วนของ Reading ก็ต้องฝึกให้คล่องให้ชำนาญ เพราะข้อสอบจะเป็นแบบ Speed Test ซึ่งตรงนี้เราก็สามารถจัดเวลาฝึกเองเพิ่มเติมเองได้ตลอดด้วยอยู่แล้ว
พาร์ท Writing ต้องเขียนครับ ที่นี่ให้การบ้าน ก็ต้องพยายามเขียนส่ง มีประโยชน์มากครับ และต้องจับเวลาด้วย ถ้าเอาไปเขียนที่บ้านสบายๆ ไม่จับเวลา พอไปสอบจริงอ้าว เขียนกันไม่ทัน อันนี้หลายๆ คนก็น่าจะเจอปัญหานี้ เพราะฉะนั้นต้องฝึกโดยการจับเวลาด้วย หรือ จับเวลาให้สั้นกว่าจริงๆ สักหน่อยก็ดี เพราะเข้าสอบจริง ควรเผื่อเวลาช๊อคอีกแป๊บนึง ผมยังเสียดายที่ ผมไม่ค่อยมีเวลาทำ Mock-up test เท่าไหร่ ด้วยเรื่องเวลาของงานประจำด้วยดังนั้นข้อสอบทุกส่วน สำคัญที่สุดคือเตรียมตัวให้ดีครับ จัดเวลาซ้อมให้สม่ำเสมอด้วย

ถ้าเรื่องทำเลเนี่ย ผมแนะนำสำหรับคนทำงาน ศิริราชเลยครับ ใกล้ และเรื่องอาหารการกินด้วย มัน Complete ในตัวที่นี่เลย สำหรับที่ English Parks เรื่องอาจารย์ผู้สอนทุกคนที่ผมเรียนด้วยเนี่ยครับ เรียกว่าตัวจริง รู้จริง สอนได้จริง และตั้งใจสอนมากกกกก ตั้งใจสอนมากกว่า อาจารย์ประจำ ที่เคยๆ เจอมาบางคนอีก มีการเตรียมพร้อมเอกสาร เนื้อหาการสอนที่ดี การเรียนคลาสกลุ่มเล็กๆ สามารถเข้าถึงได้มากกว่า ถ้าไม่เข้าใจ ก็กล้าถามได้เลย และการมีห้องเรียนหลายๆ ห้องก็สามารถเลือกเข้าเรียนให้เหมาะกับความต้องการของเราด้วยครับ
และที่ชอบมากๆ คือบรรยากาศการเรียน ตอนแรกก็กลัวจะแก่สุดในห้องรึเปล่า แล้วก็แก่ที่สุดในคลาสจริงๆ แต่น้องๆ ที่เรียนด้วยก็น่ารัก เป็นกันเอง และผมก็ได้มุมมองใหม่ๆ จากน้องๆ ในห้องเรียนด้วย คือ ไอเดียมันดูเฟรชกว่าเรา เราก็เออ แบบนี้ก็ได้นี่ บรรยากาศมันดีทั้งคนสอน ทั้งเพื่อนๆ ที่เรียน มันมีกำลังใจที่อยากมาเรียน บางวันผมยอมรับว่าเหนื่อยมาก ทำงาน 24 ชั่วโมง คือวันเสาร์ ผมทำงาน 8 โมงเช้า เลิกงาน 8 โมงเช้าวันอาทิตย์ กลับไปอาบน้ำที่บ้านแล้วมาเรียน IELTS ต่อ ที่ English Parks ด้วยบรรยากาศ ทั้งวิธีการสอน คนสอน เพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกัน ทำให้อยากมา ทั้งที่จริงๆ ควรจะนอนนะ ซึ่งวันนั้นผมก็เรียนจนถึงเย็นเลย ไม่ง่วงเลย

หมายเหตุ: ผลสอบของนักเรียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบด้วย อย่างไรก็ตามทางอิงลิชพาร์คพร้อมดูแล และช่วยให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียนตามเป้าหมายที่วางไว้ค่ะ