Image Not Found

Mook IELTS 7.0

พี่ staff เอาใจใส่นักเรียนทุกคนที่มาเรียน คอยถามว่าทำการบ้านหรือยัง ส่งการบ้านหรือยัง อาจารย์มีเทคนิคในการสอนที่ช่วยพัฒนานักเรียนในคลาสได้อย่างดี โดยรวมแล้วประทับใจมาก ดีกว่าที่อื่นๆ ที่เคยเรียนเลยมาค่ะ

IELTS 7.0

Listening
7.0

Reading
7.0

Writing
5.5

Speaking
7.0

แม้ว่าจะมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ดีอยู่แล้ว แต่การเรียนเพิ่มเติมบวกกับความทุ่มเทเอาใจใส่ย่อมทำให้ทักษะที่มีอยู่แล้วพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันก็ได้แก้ไขจุดบกพร่องที่ยังคงเป็นปัญหาให้ดีขึ้นด้วย นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จของคุณมุก (เทียนทิพย์ บุญโชควิทูร) นักเรียนคอร์ส Unlimited Weekend 3 เดือน โดยเน้นเข้าเรียนคลาส IELTS เป็นหลัก แต่มาเรียนได้เพียงแค่เดือนเดียว คุณมุกก็ตัดสินใจไปสอบทันที ซึ่งก็สามารถทำคะแนนได้ IELTS 7.0 เลยค่ะ

คุณมุก ยืนยันว่า การเข้าเรียนสม่ำเสมอ, การดู VDO เสริมบทเรียน และการฝึกทำข้อสอบนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะยิ่งทำยิ่งได้ ยิ่งฝึกมากเท่าไหร่ยิ่งชำนาญมากขึ้นเท่านั้น ถ้าหากเราเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จค่ะ

ชื่อมุกค่ะ ตอนนี้ทำงานเป็นผู้ตรวจสอบบัญชี ที่บริษัท PricewaterhouseCoopers (PwC) และยังเป็นนักเรียนคอร์ส Unlimited Weekend ที่ English Parks ด้วยค่ะ

มุกต้องการสอบ IELTS เพราะตั้งใจจะใช้ผลคะแนนยื่น เรียนต่อปริญญาโท ที่อเมริกาค่ะ ประกอบกับน้องสาวของมุกซึ่งเรียนที่อิงลิชพาร์คอยู่ก่อนแล้ว เราเห็นว่าเขามีพัฒนาการที่ดีขึ้นหลังจากมาเรียน พอไปสอบ IELTS ก็ได้คะแนนที่ดี 6.5 และน้องยังบอกอีกว่า ที่นี่สอนดี มุกเลยตัดสินใจลองมาเรียนดูค่ะ

ตอนอยู่ ม.4 มุกเคยร่วมโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนไปอยู่อเมริกา 1 ปี ซึ่งช่วยให้ภาษาอังกฤษดีขึ้นมาหน่อยค่ะ พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เรียนโครงการภาคภาษาอังกฤษ เลยทำให้ได้ใช้ภาษาอยู่เรื่อยๆ แต่ที่มาเรียนเพิ่มเติม เพราะคิดว่าควรต้องขัดเกลาให้ดีขึ้นกว่านี้อีก โดยเฉพาะเรื่อง Writing ที่มุกไม่ค่อยถนัดเนื่องจากเป็นคนที่ใช้ภาษาเขียนไม่ค่อยดีด้วยล่ะค่ะ ทั้งเรื่องการเรียบเรียง และ การใช้ Grammar

ตอนนั้น อยากรีบไปสอบเพราะอยากเก็บคะแนนไว้ก่อน ความจริงก่อนมาเรียน มุกได้อ่านหนังสือเองมาสักพักแล้ว พอเริ่มเรียนก็เร่งพัฒนาเรื่อง Writing โดยพยายามเก็บให้ครบทุกหัวข้อ ทั้งจากการเข้าเรียนในคลาส และมาดู VDO เพิ่มเติม แล้วก็ทบทวนเองที่บ้านด้วย ตอนนั้นคิดว่าถ้าปล่อยระยะเวลายาวไปจนถึง 3 เดือนแล้วค่อยไปสอบ ความกระตือรือร้นของเราอาจหายไป ถึงจะเรียนไปได้แค่เดือนเดียวแต่คิดว่าน่าจะพอไปสอบได้ เนื่องจากเราเองได้เตรียมตัวล่วงหน้าไว้พอสมควร

มุกเองเคยสอบ IELTS มาแล้วครั้งนึงตอนม.4 แต่ได้คะแนน 5.5 เองค่ะ และเคยสอบ TOEFL มาแล้วด้วย ซึ่งได้ประมาณ 80 คะแนน สำหรับการสอบ TOEFL ให้ได้ถึง 100 นี่ยากมากเลยนะคะ เพราะเหตุนี้เลยคิดว่าสอบ IELTS น่าจะดีกว่า ช่วงแรกที่เรียนคิดว่าเราควรได้ 6.5 ซึ่งก็น่าจะโอเคแล้วค่ะ

Reading, Listening และ Speaking ได้ 7.0 ส่วน Writing ได้ 5.5 ค่ะ ช่วงที่เตรียมตัวสอบมุกได้ลองทำ Mock-up Test พาร์ท Reading และ Listening ดูก่อนแล้ว ซึ่งคะแนนก็อยู่ราวๆ 7-7.5 ค่ะ ถึงคะแนนตอนซ้อมจะออกมาดียังไง แต่ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจ เพราะถ้าหากตอนสอบจริงเราดันไปเจอเรื่องที่ไม่ถนัด หรือเข้าใจยากๆขึ้นมา คะแนนจริงอาจจะออกมาแย่กว่านี้หรือเปล่า มุกเลยพยายามอ่าน และทำข้อสอบให้เยอะๆ เรียกว่าแทบจะครบทุกเล่ม ซึ่งพอจะช่วยให้เราจับทางข้อสอบได้ สำหรับคะแนนจริงที่ออกมาก็น่าพอใจอยู่ค่ะ

ส่วน Writing ช่วงที่เรียนก็เขียนการบ้านส่งทุกสัปดาห์ แต่เราอาจขยันไม่มากพอในพาร์ทนี้ อย่างมิ้นต์น้องสาวที่ได้คะแนน Writing 7.0 เขาดูขยันมากกว่านะ เขาทำสรุปการเขียนในแต่ละเรื่อง ฝึกเขียนซ้ำๆ แล้วก็เก็งแนวข้อสอบไว้เลยว่าน่าจะออกหัวข้ออะไรบ้าง ขณะที่เราเองทำแค่การบ้าน แล้วก็ดูแนวทางการเขียนในแต่ละหัวข้อแค่นั้น รู้สึกเสียดายคะแนน Writing อยู่บ้าง คิดว่าถ้าสอบใหม่อีกครั้ง จะขยันฝึกทำพาร์ทนี้ให้มากขึ้น แต่โดยรวมทั้งหมดก็พอใจนะคะ เพราะไม่คิดว่าเราจะได้ Over all ที่ 7.0 จากที่คิดว่าน่าจะได้ 6.5 ค่ะ

สิ่งที่พัฒนาขึ้นมากเลยคือเรื่อง Speaking กับ Writing ค่ะ มุกชอบคลาสที่เรียน Speaking กับอาจารย์ Keith มากๆ อาจารย์จะมีหัวข้อมาให้แต่ละคนพูดแตกต่างกันไป ซึ่งในแต่ละหัวข้อ ทุกคนจะ Brainstorm ช่วยกันเสนอประเด็นและมุมมองความคิดที่หลากหลาย บางเรื่องเราอาจคิดไม่ถึง หรือไม่มีข้อมูลเลยด้วยซ้ำ ถ้าไอเดียไหนดีเราก็จดเอาไว้ใช้ นี่เป็นวิธีที่ช่วยให้เรามีประเด็นเล่าเรื่องได้อย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้การพูดของเราลื่นไหลเป็นธรรมชาติ

นอกจากนี้อาจารย์ยังช่วย paraphrase ประโยคที่เป็น Basic sentence ของเราให้ดูสละสลวยขึ้นอีกด้วยค่ะ เวลาที่สอบ Speaking จริงๆ นั้น Examiner จะโยนหัวข้อคำถามมาให้เรา 1 เรื่อง แล้วก็จะถามคำถามสลับวนไปวนมา อย่างตอนที่มุกไปสอบ เขาถามว่า ภาพยนตร์มีส่วนช่วยในการโปรโมทการท่องเที่ยวอย่างไร โดยให้เปรียบเทียบภาพยนตร์ของบ้านเรากับของฮอลลีวู้ด ซึ่งตอนสอบมุกก็เอาไอเดียที่เคยจดไว้บวกกับเทคนิคที่ได้จากอาจารย์มาปรับใช้จริงค่ะ

ส่วน Writing เรียนกับอาจารย์เชอร์รี่เพราะน้องสาวแนะนำมาเลยค่ะ เราเรียนทั้งในห้องแล้วก็จาก VDO ที่อาจารย์สอน ซึ่งพยายามเรียนให้ครบทุกหัวข้อ อาจารย์จะสอนว่า รูปแบบการเขียนแต่ละแบบควรเป็นยังไง แต่ไม่ได้ตายตัวไปซะทุกครั้ง พร้อมมีชุดคำศัพท์ที่จะเอาไปใช้ตอนสอบด้วย เช่น ถ้าตามหลักวิชาการ ควรจะขึ้นด้วย It is obviously…, Seen that…, เราก็พอได้ไอเดียที่จะเขียน ถ้าเป็นเรื่องการ Structure paragraph อย่าง Overview นั้นควรมีแค่ไหน ถ้าไม่ได้เรียนมาก่อนคงจับโน่นนี่มาใส่จนเยอะเกินไป ส่วนตัวคิดว่ามันดีนะที่แต่ละ Essay มีรูปแบบที่ชัดเจน และเรายังมีชุดคำศัพท์ที่จะเอามาใช้ได้อย่างเหมาะสม

ถ้ามาเรียนในคลาส Conversation เราก็ได้ฝึก Speaking เพิ่มขึ้น เพราะถ้าอยู่บ้านคงไม่มีโอกาสได้ฝึกแน่นอน แต่หลักๆ จะเน้นไปที่เรื่องของไอเดียและการฝึกเรียบเรียงประเด็นที่จะพูดในแต่ละหัวข้อ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความท้าทายอยู่เหมือนกัน

อาจารย์จะสอนเรื่องการเล่นคำ หรือ Grammar ที่เราคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ แต่อาจารย์จะขยายความถึงที่มา และการนำไปใช้ให้ถูกต้องอย่างไรได้บ้างด้วยเทคนิคง่ายๆ ที่เราเองนึกไม่ถึง พอเมื่อฟังอาจารย์อธิบายแล้วเราก็ อืม…มันก็จริง ใช่เนอะ เขียนแบบนี้ก็ได้นี่นา

อย่างแรกประทับใจตรงที่ พี่บอย พี่กวาง ซึ่งเป็นพี่ staff เอาใจใส่นักเรียนทุกคนที่มาเรียน คอยถามว่าทำการบ้านหรือยัง ส่งการบ้านหรือยัง บางครั้งมีบ้างที่เราขี้เกียจ แต่พอพี่ๆ มากระตุ้นมันก็ดีนะ เพราะอย่างน้อยเรายังได้ทำบ้าง เป็นการพัฒนาตัวเราด้วย มุกพยายามส่ง Writing ให้อาจารย์ตรวจก่อนมาเรียน ซึ่งอาจารย์จะช่วยปรับแก้ พร้อมแนะนำว่าเขียนอย่างไรถึงจะดี จากนั้นเราก็กลับมาดู Comment ของอาจารย์อีกรอบ

จะว่าไปแล้วเพื่อนๆ ในห้องเรียนส่วนใหญ่ก็เก่งนะคะ แต่ละคนก็มีความพยายามตั้งใจ เรียนไปสักพักพอสนิทกันมากขึ้นก็ทำให้การเรียนในคลาสสนุกขึ้นด้วย ส่วนอาจารย์ทุกคนไม่ว่าจะเป็น อาจารย์ตูน อาจารย์บิว อาจารย์เชอรี่ อาจารย์ Keith หรือ อาจารย์ Greg ล้วนแล้วแต่มีเทคนิคในการสอนที่ช่วยพัฒนานักเรียนในคลาสได้อย่างดี โดยรวมแล้วประทับใจมาก ดีกว่าที่อื่นๆ ที่เคยเรียนเลยมาค่ะ

หมายเหตุ: ผลสอบของนักเรียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบด้วย อย่างไรก็ตามทางอิงลิชพาร์คพร้อมดูแล และช่วยให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียนตามเป้าหมายที่วางไว้ค่ะ