Image Not Found

ปาล์ม IELTS 6.5

เรียนที่นี่ไม่มีเครียดหรอกครับ จะเครียดก็ตอนที่ลุ้นคะแนนเวลาฝึกทำข้อสอบมากกว่า สาเหตุที่ไม่เครียดเพราะบรรยากาศการเรียนสนุกสนานเฮฮามาก อาจารย์และพี่ๆสต๊าฟน่ารักมาก มาเรียนได้ทุกวันไม่เบื่อเลย

IELTS 6.5

Listening
8.0

Reading
6.5

Writing
5.5

Speaking
5.5

ขอแสดงความยินดีกับ “น้องปาล์ม ธนกฤต เมธเศรษฐ” นักเรียน ม.6 โรงเรียนอัสสัมชัญ (บางรัก) และนักเรียนคอร์ส Unlimited Package ที่เพิ่งสอบติดคณะ BE (คณะเศรษฐศาสตร์อินเตอร์ มหาลัยวิทยาลัยธรรมศาสตร์)ค่ะ ก่อนหน้านี้ปาล์มเคยมีความเชื่อว่าการเลือกใช้คำศัพท์ยากๆ จะช่วยให้สอบ IELTS ได้คะแนนดีในพาร์ท Writing และ Speaking แต่ปรากฏว่าไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่ปาล์มต้องการสื่อสาร เนื่องจากใช้คำศัพท์ผิดบริบท ปาล์มมีวิธีแก้ปัญหานี้อย่าไงรจนสอบได้คะแนน IELTS overall 6.5 ในการสอบครั้งแรก (Listening 8.0, Reading 6.5, Writing 5.5 และ Speaking 5.5) และได้เข้าเรียนคณะ BE อย่างที่ฝัน วันนี้ปาล์มจะมาแชร์เรื่องราวให้ทุกคนได้ติดตามอ่านกันค่ะ

ก่อนจะมาเรียนที่อิงลิชพาร์ค ปาล์มไปโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ปานามา 1 ปี ช่วงที่อยู่ปานามาก็ใช้แต่ภาษาสเปน ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลย กลายเป็นว่าพอกลับจากปานามา ภาษาอังกฤษของปาล์มแย่หนักกว่าเดิมอีก ถ้าให้เขียนประโยคแบบจริงๆ จังๆ ปาล์มเขียนไม่ได้เลย ได้แค่งูๆ ปลาๆครับ แต่เป้าหมายของปาล์ม คืออยากเข้าเรียนคณะเศรษฐศาสตร์อินเตอร์ มหาลัยธรรมศาสตร์ BE (Bachelor of Economics) ซึ่งต้องใช้คะแนน IELTS 6.5 นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ปาล์มต้องเรียนภาษาอังกฤษจริงจัง และที่เลือกเรียนแบบ Unlimited for IELTS เพราะรู้ว่าตัวเองพื้นฐานไม่ดี ถ้าเรียนแค่ IELTS อย่างเดียวไม่น่ารอดครับ

ต่างมากนะครับ อาจารย์ที่โรงเรียนเขาจะเน้นสอนเรื่องคำศัพท์ที่ใช้สอบพวก CU-TEP, TU-GET และ SAT ซึ่งเป็นคำศัพท์ยากที่หรูหราอลังการ เรียนเพื่อใช้ทำข้อสอบแต่ใช้ในชีวิตจริงไม่ค่อยได้ แต่ที่อิงลิชพาร์ค ผมได้เรียนครบทุกทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน ซึ่งใช้ได้ทั้งกับการสอบ IELTS และสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย

หูยยย…การบ้าน IELTS Reading ชุดแรก ผมได้แค่ 5.5 เองครับ จากที่มั่นใจกลายเป็นเริ่มกลัวเลยว่าแค่ 6.5 เนี่ยจะถึงไหม การสอบ IELTS มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย

ที่ปาล์มมีปัญหาหลักๆเลย คือ Writing กับ Speaking ซึ่งเป็นทักษะที่ปาล์มแทบไม่ได้ฝึกที่โรงเรียนเลย ทำให้ไม่รู้ว่าจะเขียน หรือ พูดตอบคำถามยังไงดี ถ้าพูดก็ไม่เป็นประโยค แถม dead air บ่อยมาก แต่ที่หนักที่สุด คือ ปาล์มมักจะใช้คำศัพท์ผิดบริบท หรือใช้ศัพท์ที่มันแปลกประหลาดกว่าชาวบ้าน ด้วยความที่เรียนคำศัพท์ยากๆมาเยอะ ก็เลยอยากเอามาใช้บ้าง และคิดว่ายิ่งใช้ศัพท์ยาก ยิ่งได้คะแนนดี ผลปรากฏว่าไม่มีใครเข้าใจเสิ่งที่ปาล์มต้องการสื่อเลย ช่วงแรกที่ทำ Mock-Up Test คะแนน Writing กับ Speaking ได้ไม่เคยเกิน 5.5 เลยครับ แต่ตอนนี้พัฒนาขึ้นเยอะมากแล้วนะ ใช้คำศัพท์ไม่ค่อยประหลาดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ^_^

ช่วงที่มาเรียน ปาล์มอยากใช้คำศัพท์ไหนปาล์มใช้เลยครับ จะได้รู้ไปเลยว่ามันถูกหรือผิด เพราะถ้าผิดเดี๋ยวอาจารย์เขาแก้ให้เอง ส่วนใหญ่ที่ปาล์มเลือกมาใช้ก็ผิดหมดนั่นแหล่ะ จะเหลือหรอ 555 แต่ก็มีนะที่แอบค้านอยู่ในใจว่า คำนี้ใช้ไม่ได้จริงหรอ ปาล์มก็จะพยายามไปถามเพื่อนๆ ถามพี่ๆสต๊าฟ ซึ่งทุกคนก็บอกเหมือนกันหมดว่าคำศัพท์ของปาล์มมันแปลกมาก สุดท้ายปาล์มก็ต้องยอมแพ้ครับ คือมันไม่ตรงหรือไม่ควรใช้กับบริบทนั้นๆ ^_^

ปาล์มนั่งคำนวณคะแนนทุกวันเลย ว่าแต่ละพาร์ทปาล์มควรต้องได้เท่าไหร่ถึงจะรอดที่ Overall 6.5 สิ่งที่ปาล์มคิดว่าน่าจะช่วยดึงคะแนนปาล์มได้ คือพาร์ท Listening กับ Reading แต่ใช้เวลาพอสมควรเลยกว่าคะแนน 2 พาร์ทนี้จะคงที่ ช่วงแรกก็สาหัสเหมือนกัน ครับ อย่าง Listening แรกๆฟังไม่ออกเลย มาเริ่มดีขึ้นช่วงที่เรียน Pronunciation กับคลาส Conversation ไปได้ระยะหนึ่ง

ขณะที่ Reading ยิ่งฝึกทำข้อสอบก็ยิ่งเครียด เพราะคะแนนไม่นิ่งเลย แกว่งไปแกว่งมาตลอด ถ้า Passage ไหนเป็นเรื่องที่พอมีความรู้อยู่บ้างก็จะทำได้ดี แต่ถ้าไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลยก็มักจะทำข้อสอบไม่ทัน เพราะต้องใช้เวลาอ่านทำความเข้าใจนาน แต่ที่ปาล์มตายไปเลยคือโจทย์คำถามที่ให้ดู Heading ว่ามาจาก Paragraph ไหน เพราะปาล์มเป็นคนที่อ่านจับใจความไม่ได้ สมมติมี 6 ข้อ ทำถูกแค่ข้อเดียว พี่สต๊าฟรู้ว่านี่คือจุดอ่อน ก็จะเอาข้อสอบที่เป็นโจทย์ Heading มาให้ทำซ้ำๆเป็น สิบๆชุด จนในที่สุดก็พัฒนาทำถูก 4 ข้อ จาก 6 ข้อครับ ^_^

จริงๆปาล์มก็โอเคแหล่ะ แต่คิดว่าถ้ามีเวลาเรียนที่นี่นานกว่านี้ ปาล์มต้องสอบได้ 7.0 แน่ๆ ดีไม่ดีถึง 7.5 ด้วยซ้ำ จากที่ปาล์มมาเรียนแค่ 3 เดือน แต่รู้สึกเลยว่าทักษะ Writing ปาล์มพัฒนาขึ้นเยอะมาก เพราะนอกจากคลาส IELTS Writing ปาล์มยังได้เรียนคลาส Sentence Writing เสริมไปพร้อมๆกันด้วย ซึ่งทำให้ทักษะการเขียนแน่นขึ้นอีก ในคลาสนี้ปาล์มได้ฝึกเขียนประโยคแบบจริงจัง และยังได้เรียนวิธีการใช้ Semicolon (;) และเครื่องหมายต่างๆ ที่ใช้สำหรับการเขียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ปาล์มไม่เคยเรียนมาก่อนเลยครับ

ที่ผ่านมาผมว่าตัวเองพัฒนาขึ้นเยอะมาก แต่ถ้าเข้าไปเรียน BE จริงๆ อาจจะต้องปรับตัวนิดหน่อย แต่ในระหว่างนี้ปาล์มต้องแสวงหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เหมือนที่ผ่านมายิ่งปาล์มได้มาเรียน ก็ยิ่งทำให้รู้ว่าตัวเองรู้น้อยแค่ไหนครับ

ปาล์มว่าคะแนน 6.5 ไม่ได้ยากมากนะครับ เชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้แต่ต้องฝึกทำข้อสอบ วางแผนการเรียนให้ดี ไม่ใช่ว่านั่งๆนอนๆแล้วอยู่ดีๆไปสอบจะได้ 6.5 แบบนี้มันไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆ ถ้าย้อนดูประวัติของปาล์ม ปาล์มมาเรียนแทบทุกวัน และฝึกทำข้อสอบเยอะมาก เมื่อรู้ว่าทำผิดก็ต้องแก้ พาร์ทไหนไม่ได้ก็ต้องฝึกเยอะเป็นพิเศษ ทำซ้ำจนกว่าจะได้ครับ

อีกอย่างที่สำคัญมากไม่แพ้กัน คือ มาเรียนแล้วต้องตั้งใจ โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ในคลาสเรียน เพราะถ้าเราเรียนให้ห้องแล้วเราเข้าใจ เวลานอกห้องเรียนก็เหมือนกับแค่เป็นการเตือนความจำและทบทวนสิ่งที่เราได้เรียนไปแล้วครับ

เรียนที่นี่ไม่มีเครียดหรอกครับ จะเครียดก็ตอนที่ลุ้นคะแนนเวลาฝึกทำข้อสอบมากกว่า สาเหตุที่ไม่เครียดเพราะบรรยากาศการเรียนสนุกสนานเฮฮามาก อาจารย์และพี่ๆ สต๊าฟน่ารักมาก มาเรียนได้ทุกวันไม่เบื่อเลย อย่างตอนช่วงปิดเทอม ปาล์มก็มาสิงสถิตอยู่ที่นี่ทั้งวัน พอเปิดเทอมวันไหนที่ไม่ค่อยมีเรียน ปาล์มก็โดดเรียนมาอยู่ที่นี่ มาฝึกทำข้อสอบครับ ^_^

หมายเหตุ: ผลสอบของนักเรียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบด้วย อย่างไรก็ตามทางอิงลิชพาร์คพร้อมดูแล และช่วยให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียนตามเป้าหมายที่วางไว้ค่ะ