Image Not Found

ป้อ IELTS 6.5

การลงเรียน Private ยอมรับเลยว่า คุ้ม เพราะที่ผ่านมาไม่รู้จุดอ่อนของตัวเองเลย พอมาเรียนอาจารย์จะคอยจี้และชี้เลยว่าจุดที่เราต้องปรับคืออะไร แล้วมีคำแนะนำเพื่อเอามาปรับใช้ในงานเขียนของเราให้มันดีขึ้น เขียนแบบไหนที่อ่านเข้าใจ ซึ่งมันได้ผลจริงๆ ถ้าไม่เรียนคงไม่ได้แน่ๆ…ในที่สุดก็สอบได้คะแนน Writing 6.5 ค่ะ

IELTS 6.5

Listening
6.0

Reading
7.5

Writing
6.5

Speaking
6.0

เรียนที่อื่นมาก็แล้ว และไปสอบ IELTS ถึง 3 ครั้ง แต่ “คุณป้อ รุจยา ลิ้มปณิธานนท์” ก็ยังได้คะแนน Writing 5.5 เท่าเดิมเป๊ะไม่มีการขยับขึ้นแม้แต่น้อย จนในที่สุด “คุณป้อ” ได้ตัดสินใจมาสมัครเรียนคอร์ส Private จำนวน 20 ชั่วโมง ที่อิงลิชพาร์ค โดยเน้นเรียนแค่ Writing เพียงอย่างเดียว ผลจากการเรียนครั้งนี้ทำให้คุณป้อสามารถอัพคะแนน Writing จาก 5.5 เป็น 6.5 ทันที จากการสอบครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา โดยได้คะแนน Overall 6.5 (Listening 6.0, Reading 7.5, Writing 6.5, Speaking 6.0) คุณป้อมีเทคนิคอะไร ไปติดตามจากบทสัมภาษณ์กันเลยค่ะ

ตัวเราวางแผนอยากไปอเมริกา ซึ่งใช้ได้ทั้งคะแนน IELTS และ TOEFL แต่คิดว่ารูปแบบการสอบ IELTS มันง่ายกว่า เลยเลือกสอบ IELTS ค่ะ มหาวิทยาลัยที่ดูไว้ คือ University of Illinois at Urbana-Champaign อยากไปเรียนต่อด้าน MBA ซึ่งต้องใช้คะแนน overall 6.5 และคะแนนทุกพาร์ทต้องไม่ต่ำกว่า 6.0 ค่ะ ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกเลยว่า อยากเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่อยู่ในลำดับ Top 50 ซึ่งจริงๆแล้วต้องใช้คะแนน 7.0 แต่ถ้าได้ 6.5 ก็อาจจะได้ไปเรียนปรับภาษาเพิ่มเติมนิดหน่อยก่อนค่ะ

ต้องบอกก่อนว่า เรียนภาคไทยมาตลอด แล้วพอจบมาทำงาน 4 ปี ก็ไม่ได้แตะภาษาอังกฤษเลย รู้สึกว่าเราจำเป็นต้องปูพื้นฐานก่อน เลยไปลงเรียนคอร์สพวก Fundamental writing และคลาสที่เน้นการทำข้อสอบ ทั้ง 4 skills ของสถาบันอื่น ซึ่งก่อนเรียนเราก็ฝึกทำข้อสอบไปเรื่อยๆ ตามเนื้อหา พอไปเรียนก็ช่วยให้พอมีเทคนิคในการทำข้อสอบบ้าง หลังเรียนจบคอร์สก็ทบทวนด้วยตัวเองอีก 2 เดือน แล้วถึงค่อยไปสอบ IELTS ครั้งแรกค่ะ

ซึ่งผลการสอบครั้งแรกที่ได้ คือ IELTS 6.0 ค่ะ Reading 6.0, Listening 6.0, Writing 5.5, Speaking 6.5 ซึ่งคะแนนมันยังได้ไม่ถึงตามที่ต้องการค่ะ

ต้องบอกว่า สอบครั้งที่ 2 ห่างจากสอบครั้งแรก 2 สัปดาห์ คือเรารีบมาก กะว่าจะให้ได้คะแนนภายในสิ้นปีนี้ คิดว่าครั้งแรกเป็นการสอบเพื่อที่จะรู้ว่าพื้นฐานของเราตอนนี้อยู่ที่ 6.0 คะแนนนะ แล้วกะว่าฝึกซ้อมอีกนิดหน่อยก็น่าจะทำได้ แต่เอาเข้าจริงเรากลับไม่ได้พัฒนาอะไรจากเดิมเลย ผลคะแนน Overall ออกมาที่ 6.0 เหมือนเดิม ส่วน Writing ก็ยังอยู่ที่ 5.5 เท่าเดิม

คราวนี้เว้นไป 1 เดือน แต่ก็ยังคงฝึกด้วยตัวเอง ด้วยความที่พอจะรู้ตัวเองแล้วว่า Writing ยังไม่แข็ง เลยพยายามฝึกตรงนี้เยอะๆ มีส่งให้เวบไซต์ที่รับตรวจ Writing บ้าง ซึ่งเขาก็ให้ feedback กลับมาที่ 5.5 เหมือนเดิม คือมันงัดคะแนนไม่ขึ้นจริงๆ เราว่าเราเตรียมเยอะละนะ ทั้งไปอ่าน Model answer ในเว็บ แล้วก็ไปดูวิธีการเขียนจากคลิปใน YouTube แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจุดอ่อนเราอยู่ตรงไหน เพราะตอนเขียน Idea เราก็ไม่ได้แย่นี่ ทำไมคะแนนไม่ขึ้นซะที ก่อนไปสอบครั้งที่ 3 ก็เริ่มทำใจบ้างแล้ว แต่แอบลุ้นว่าจะได้หัวข้อที่เราเตรียมมาหรือเปล่า สุดท้ายสอบครั้งที่ 3 ผลออกมา Listening ได้ 8.0 แต่ Writing ยังคงได้ 5.5 เหมือนเดิม -_-

ใช่ค่ะ เริ่มรู้สึกว่า ต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ เราจะเสียค่าสอบครั้งละ 7 พันแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้นะ เราควรหาที่เรียนเพื่อให้สอบได้คะแนนดีๆไปเลยมันจะคุ้มกว่าไหม ก็เริ่มหาข้อมูลในเน็ตละว่า เอ๊ะ… เขาทำยังไงกัน พอ search คำว่า IELTS Writing ก็มีชื่อโรงเรียนขึ้นมาเยอะนะคะ และเห็นชื่อ English Parks ขึ้นมาด้วย เลยเข้าไปดู Profile นักเรียนที่นี่ ซึ่งได้คะแนนกันเยอะ เลยลองหยอดข้อความในแบบฟอร์มสอบถามคอร์สดู ยังคิดว่าถ้าทางโรงเรียนติดต่อมา ก็แสดงว่าเจ้าหน้าที่ใส่ใจนักเรียนดีนะ แล้วเจ้าหน้าที่ก็โทรมาเลยวันนั้น ซึ่งเขาให้รายละเอียดได้ดี เลยตัดสินใจลองเข้ามา Test ดู แล้วก็สมัครเรียน Private 20 ชั่วโมงค่ะ

การลงเรียน Private ยอมรับเลยว่าคุ้มค่ามาก เพราะที่ผ่านมาไม่รู้จุดอ่อนของตัวเองเลย พอได้มาเรียนแบบตัวต่อตัวอาจารย์จะคอยจี้และชี้เลยว่าจุดที่เราต้องปรับคืออะไร แล้วมีคำแนะนำเพื่อเอาไปปรับใช้ในงานเขียนของเราให้มันดีขึ้น เขียนแบบไหนที่อ่านเข้าใจ ซึ่งมันได้ผลจริงๆ ถ้าไม่เรียนคงไม่ได้คะแนนที่ต้องการแน่ๆ

ย้อนไปช่วงที่เรียนเนี่ย เราเป็นคนที่มี Idea ฟุ้งมาก บางทีคิดเรื่องที่คนธรรมดาไม่คิดกัน อาจารย์ก็ท้วงแบบ เธอคิดว่า Idea แปลกๆ แล้วมันจะเก๋ใช่มั้ย เมื่อก่อนเราไม่รู้ตัว คิดแต่ว่าเออ… คิดแบบนี้มันเจ๋งมากเลยนะ แต่ปรากฏว่าสื่อสารออกมาแล้วคนอ่านไม่เข้าใจ อาจารย์แนะนำว่าเราควรจะหาอะไรที่มัน Common หรือทั่วไปกว่านี้ ตอนเรียนเราก็จะมา Brainstorm โจทย์กัน คิด Idea ที่มันธรรมดาๆ เข้าใจง่าย และเราสามารถอธิบายได้เป็นขั้นเป็นตอนชัดเจน แล้วค่อยใส่ Example ประกอบง่ายๆ เข้าไป พอไปสอบจริงก็พยายามคิดตามที่ฝึกมา ตรงนี้ช่วยให้คะแนนเราดีขึ้นชัดเจน จนในที่สุดก็สอบได้คะแนน Writing 6.5 ค่ะ ^_^

จริงๆ ประทับใจตั้งแต่เจ้าหน้าที่เลยค่ะ ตอนที่เข้ามาทีแรก เราก็เป็นคนถามเยอะ เจ้าหน้าที่เขายังไม่รู้เลยว่าเราจะสมัครเรียนหรือเปล่า แต่ก็คุยกับเราเป็นชั่วโมง ปกติที่เคยเรียนที่อื่น คนที่รู้รายละเอียดการสอบ IELTS จะมีแต่อาจารย์เท่านั้น แต่ที่นี่ เจ้าหน้าที่มีข้อมูลดีมาก เรื่องการส่งงานตรวจ Writing เมื่อก่อนเรียนที่อื่น เวลาส่งงานไปแล้วต้องรอถึง 10 วันทำการ ซึ่งมันนานไป แต่เจ้าหน้าที่ที่อิงลิชพาร์คพยายามจัดการให้เร็วที่สุด เพราะรู้ว่าเราต้องรีบสอบ จนบางทีเกรงใจว่าเราส่งเกินโควตาที่ควรจะได้หรือเปล่า อาจารย์ที่สอนก็มีประสบการณ์ มองออกว่าเราพลาดตรงไหน ต้องปรับอย่างไร หนูรู้สึกว่าอาจารย์คนไทยเนี่ยแหละจะเข้าใจนักเรียนไทยและแก้ปัญหาให้เราได้ดีกว่า

อันดับแรกต้องเข้าใจตัวเองก่อนว่าพื้นฐานภาษาของเราเป็นยังไง ถ้าพื้นฐานดีอยู่แล้วอาจจะใช้เวลาไม่นาน แต่ส่วนตัว คือวัดจากตัวเราเองก่อน ถึงจะเตรียมตัวมาบ้าง แต่ยังไงก็ควรมีคนช่วยไกด์ ช่วยแนะนำเทคนิคการทำข้อสอบ และที่สำคัญต้องฝึกทำข้อสอบ และทบทวนด้วยตัวเอง พอเอามาบวกกับคำแนะนำจากอาจารย์ที่เชี่ยวชาญก็ยิ่งช่วยให้คะแนนเราดีขึ้นค่ะ

หมายเหตุ: ผลสอบของนักเรียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบด้วย อย่างไรก็ตามทางอิงลิชพาร์คพร้อมดูแล และช่วยให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียนตามเป้าหมายที่วางไว้ค่ะ