Image Not Found

โฟล์ค IELTS 6.5

พอมาเรียนแล้วผมสามารถเรียบเรียงสิ่งที่จะเขียนได้ดีขึ้นจากเดิมมากๆ เข้าใจว่าควรเชื่อมโยงเรื่องยังไง แต่ที่พัฒนามากที่สุด คือ Reading ครับ…ช่วงแรกๆผมใช้เวลาครึ่งวันในการทำข้อสอบ Reading หนึ่งชุด แต่ว่าตอนนี้ผมสามารถอ่านเข้าใจเรื่องราวในหนึ่ง Passage ได้ภายใน 20 นาทีครับ

IELTS 6.5

Listening
8.0

Reading
7.0

Writing
5.0

Speaking
6.0

มีคะแนน IELTS ก็สามารถไปฝึกงานที่ต่างประเทศได้ค่ะ อย่าง “น้องโฟล์ค ณัฐชนน มณีโชติ” นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มาเรียนคอร์ส Super IELTS เพื่อสอบเอาคะแนนไปยื่นฝึกงานด้าน IT ที่ประเทศญี่ปุ่น โฟล์คเชื่อว่าการสอบให้ได้คะแนนดี นอกจากต้องขยันฝึกทำข้อสอบแล้ว เราจำเป็นต้องวางกลยุทธ์ในการสอบด้วย กลยุทธ์อะไรที่ทำให้โฟล์คสอบได้คะแนน overall 6.5 ในการสอบครั้งแรก (Listening 8.0, Reading 7.0, Writing 5.0, Speaking 6.0 สอบวันที่ 29 ก.ย. 61) ติดตามอ่านได้จากบทสัมภาษณ์ค่ะ

พ่อกับน้องมาเดินหาที่เรียนให้ครับ แล้วก็เอาโบรชัวร์ของอิงลิชพาร์คกลับไปให้ผมดูที่บ้าน หลักๆที่เลือกมาเรียนที่นี่เพราะผมเห็นคะแนนสอบ IELTS ของนักเรียนแปะไว้ที่โรงเรียนเยอะมาก เลยคิดว่าที่นี่น่าจะช่วยผมได้ ซึ่งผมอยากได้คะแนน IELTS 6.5 ครับ

ไม่เคยฝึกทำข้อสอบเลยครับ แล้วนี่ก็เป็นการสอบครั้งแรกด้วย แต่ผมคิดไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่า การสอบ IELTS ให้ได้ 6.5 ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ

ตอนนี้ผมเรียนที่ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ปี 3 ที่สอบ IELTS เพราะผมอยากไปฝึกงานที่ญี่ปุ่นซึ่งต้องใช้คะแนน IELTS 6.0 โครงการนี้ยังไม่ได้กำหนดวันสมัครที่แน่นอน แต่ผมสอบเตรียมเอาไว้ก่อน พอถึงเวลาจะได้มีคะแนนพร้อมยื่นสมัครครับ

อย่าง Reading ก็จะมีคำศัพท์ที่ไม่รู้จัก แปลไม่ออก รวมถึงโครงสร้างประโยคที่ค่อนข้างยาก ส่วน Listening ตอนที่ผมฝึกทำข้อสอบมันมีหลายสำเนียงมาก เช่น สำเนียงอินเดีย ที่เราไม่ค่อยได้ยินในชีวิตประจำวัน แต่ว่าตอนสอบผมโชคดีไม่เจอสำเนียงแปลกๆ มีแต่สำเนียงอังกฤษ (British accent) หมดเลย และที่ได้คะแนนพาร์ท Listening 8.0 ส่วนหนึ่งเพราะผมชอบฟังเพลงภาษาอังกฤษอยู่แล้ว และพอได้มาฝึกที่อิงลิชพาร์คก็ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ ฝึกจนจับคำศัพท์ได้และฟังออกเกือบทั้งหมดเลยครับ

สำหรับ Writing กับ Speaking มันยากตรงที่เราต้องเรียบเรียงเรื่องที่จะเขียนกับพูดให้ได้ ซึ่งหลายๆ เรื่องแค่ให้อธิบายเป็นภาษาไทยยังยากเลยครับ

ผมไม่ชอบ Writing เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะเป็นคนเล่าเรื่องไม่เป็น เลยไม่รู้จะเขียนอธิบายความยังไง ซึ่งผมคิดว่าเด็กไทยหลายคนที่เรียน Bilingual ก็มีปัญหาเรื่องนี้นะครับ อีกอย่างคือที่โรงเรียนไม่ได้สอนให้เรียบเรียงความคิดในการเขียนแบบจริงจังด้วย แต่การสอบ IELTS มันไม่ใช่ว่าเราจะเขียนอะไรก็ได้ เราต้องเรียบเรียงความคิดให้ดี จะได้ไม่เขียนวนไปวนมาครับ

โจทย์ Writing Task 1 เป็น Graph เกี่ยวกับเรื่องรีไซเคิลแก้ว ส่วน Task 2 เป็นเรื่องการศึกษา ซึ่งผมเขียนไม่ทัน คำไม่ครบ ไม่รู้จะอธิบายยังไง แถมตอบไม่ตรงคำถามอีก ซึ่งมันค่อนข้างยากสำหรับผม เลยได้คะแนนแค่ 5.0 ครับ ปกติตอนที่ทำ Mock-up test ผมก็ได้คะแนนประมาณ 5.0 – 5.5 อยู่แล้ว เพราะอย่างที่บอกไปว่าปัญหาของผมคือ ไม่สามารถเรียบเรียงความคิดได้ทันที แล้วก็เล่าเรื่องวนไปวนมาครับ ซึ่งเป็นปัญหามาตั้งแต่เด็ก ถ้าต้องการจะแก้ตรงนี้อาจจะต้องใช้เวลาเพิ่มอีกนิดนึงครับ

ผมว่าดีขึ้นมากครับ อย่าง Writing ที่เป็นปัญหาหนักที่สุดของผมมาโดยตลอด ถ้าไม่ได้มาเรียนคงได้คะแนนแค่ 4 เต็ม 9 แต่พอมาเรียนแล้วผมสามารถเรียบเรียงสิ่งที่จะเขียนได้ดีขึ้นจากเดิมมากๆ เข้าใจว่าควรเชื่อมโยงเรื่องยังไง แต่ที่พัฒนามากที่สุด คือ Reading ครับ ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนที่อ่านช้ามาก บางครั้งอ่านจบทั้งประโยคแล้ว แต่กลับแปลไม่ออกเลย ช่วงแรกๆ ผมใช้เวลาครึ่งวันในการทำข้อสอบ Reading หนึ่งชุด แต่ว่าตอนนี้ผมสามารถอ่านเข้าใจเรื่องราวในหนึ่ง Passage ได้ภายใน 20 นาทีครับ

Part 2 ได้โจทย์ที่ให้เล่าเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายที่ชอบ ซึ่งผมไม่เคยซ้อมพูดหัวข้อนี้มาก่อน แล้วมันยากมากๆครับ ขนาดให้เล่าเรื่องกฏหมายเป็นภาษาไทย ยังพูดไม่ค่อยได้เลย แต่โชคยังดีที่ผมเคยศึกษาเรื่องพวกกฎหมายลิขสิทธิ์มาบ้าง เลยพอถูไถไปได้ ส่วน Part 3 จะเป็นคำถามต่อเนื่องจาก Part 2 เขาถามว่า ทำไมต้องมีกฎหมายในประเทศ แล้วคิดว่ามีกฎหมายระหว่างประเทศไว้เพื่ออะไร ก่อนจะตอบคำถามผมเรียบเรียงประโยคในหัวให้ดีก่อน แล้วพยายามพูดไม่ให้ตะกุกตะกักครับ

การสอบ IELTS ให้ได้คะแนนตามเป้า เราต้องวางกลยุทธ์ให้ดีครับ ต้องรู้ตัวเองก่อนว่าเราสามารถทำคะแนนพาร์ทไหนได้ดีที่สุด แล้วรองลงมาคืออะไร อย่างผมทำ Listening ได้คะแนนดีอยู่แล้ว ก็มาทุ่มกับพาร์ท Reading เป็นพิเศษ เพราะผมคิดว่าน่าจะอัพคะแนนได้ และจะได้ดึงคะแนน Overall ขึ้นด้วย ส่วนพาร์ท Writing และ Speaking ถึงจะทำได้ไม่ดีแต่ก็ทิ้งไม่ได้ ต้องพยายามประคองไว้ เพราะถ้าไม่ฝึกเลยคงแย่กว่านี้มากๆครับ

ถ้าตอนนี้คุณกำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบด้วยตัวเอง โดยที่พื้นฐานไม่ดีมาก ผมแนะนำว่ามาเรียนเถอะครับ เพราะการสอบ IELTS เป็นเรื่องที่เข้าใจเองได้ยาก และจำเป็นต้องใช้เทคนิคในการทำข้อสอบ อีกอย่างเลยที่นี่มีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยในการเรียนของเรามากๆ เช่น มีอาจารย์และพี่สต๊าฟที่คอยสอนเราได้ครับ รวมถึงเวลาอยู่ในห้องเรียน ถ้าเราสงสัยตรงไหน สามารถยกมือถามอาจารย์ได้เลยทันที รวมถึงมีการบ้าน และ Mock – up Test ให้ลองทำก่อนไปสอบจริงด้วยครับ

หมายเหตุ: ผลสอบของนักเรียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบด้วย อย่างไรก็ตามทางอิงลิชพาร์คพร้อมดูแล และช่วยให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียนตามเป้าหมายที่วางไว้ค่ะ