Image Not Found

ส้ม IELTS 6.5

การได้ Feedback จากการตรวจ Writing ช่วยได้เยอะมาก เพราะคอมเม้นท์ของอาจารย์ค่อนข้างตรง อย่างการบ้าน Writing ของส้ม อาจารย์จะบอกให้เพิ่มคำศัพท์ที่เป็น Academic Vocabulary มากกว่านี้ ส่วน Grammar ก็มีการปรับเป็นภาษาเขียนมากขึ้น การได้เรียนแบบนี้ช่วยพัฒนาการเขียนของส้มขึ้นเยอะเลยค่ะ

IELTS 6.5

Listening7.0

Reading7.5

Writing6.0

Speaking5.5

การเรียนคอร์ส Unlimited for IELTS นอกจากจะช่วยให้ “คุณส้ม วิภาดา รัตน์บวรกุล” สอบ IELTS ได้คะแนน Overall 6.5 (Listening 7.0, Reading 7.5, Writing 6.0, Speaking 5.5) ยังช่วยเสริมทักษะภาษาอังกฤษของส้มให้ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะเรื่อง Speaking และ Writing จากที่เคยใช้ภาษาอังกฤษได้ในระดับธรรมดาทั่วไป แต่ตอนนี้ส้มสามารถใช้ภาษาในระดับที่ Advanced ขึ้นแบบอัตโนมัติ คุณส้มได้เรียนอะไรบ้าง แล้วแต่ละคลาสมีประโยชน์อย่างไร ลองอ่านจากบทสัมภาษณ์ของกันดูนะคะ

ตอนนี้ส้มทำงานที่ SCG logistics ตำแหน่ง IT assistant ซึ่งทำงานที่นี่มาประมาณ 2 ปีครึ่งแล้วค่ะ

ส้มยังไม่ได้เลือกนะคะว่าจะไปเรียนที่ไหน อาจจะไปเรียนที่ประเทศจีน หรือไม่ก็แคนาดา ตั้งใจอยากเรียนต่อสายบริหาร แต่ที่แน่ๆคือต้องสอบ IELTS และควรได้คะแนนสัก 6.5 ค่ะ

เคยสอบ TOEIC ได้คะแนน 795 ค่ะ และย้อนกลับไปสมัยม.5 ส้มเคยไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สหรัฐอเมริกาประมาณปีนึง ตอนนั้นส้มต้องจัดการทุกอย่างในชีวิตด้วยตัวเอง และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลา ทำให้เราต้องพยายามอัพเกรดภาษาของเราให้ดีขึ้นโดยอัตโนมัติ พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เลือกเรียนภาคอินเตอร์ด้วย ทำให้ส้มยังคงใช้ภาษาอังกฤษอยู่บ้างค่ะ

ส้มยังไม่เคยสอบ IELTS มาก่อน เลยไม่รู้แนวว่าข้อสอบว่ามันเป็นยังไง คิดว่าถ้ามาเรียน น่าจะได้รู้เทคนิคและเคล็ดลับเพิ่มเติมที่ช่วยให้คะแนนเราออกมาดีค่ะ

ส้มหาข้อมูลจาก Pantip ค่ะ ส้มเองอยู่ปิ่นเกล้า คิดว่ามาเรียนที่ English Parks สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้าก็สะดวกดี ถ้าต้องไปเรียนไกลๆ ในตัวเมือง กลัวว่าจะขี้เกียจกับการเดินทางแล้วล้มเลิกกลางคัน แล้วส้มยังได้อ่านรีวิวของนักเรียนที่เคยเรียนที่นี่ด้วยซึ่งอ่านแล้วรู้สึกว่าที่นี่โอเคเลย ส่วนสาเหตุที่สมัครคอร์ส Unlimited for IELTS แบบ weekend 3 เดือน เพราะนอกจากการเตรียมสอบ IELTS แล้ว ยังได้เรียนอย่างอื่นเพิ่มด้วย ซึ่งราคาก็ไม่ต่างกันมากค่ะ

ส่วนใหญ่จะเข้าเรียนคลาส Speaking ซึ่งส้มคิดว่าคลาสที่นี่โอเคเลยนะคะ เพราะเราได้ฝึกพูดคุยในเรื่องที่เราแทบไม่มีโอกาสได้พูดในชีวิตประจำวัน โดยปกติส้มจะใช้ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับเรื่องงานที่ส้มทำอย่างเดียว

แต่การมาเรียน อาจารย์จะมีหัวข้อให้เราพูดหลากหลายทั้งเรื่อง Politics, Culture และอื่นๆที่สามารถเอาไปใช้ในชีวิตทั่วๆไปได้ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ส้มได้ลองพูดและยังได้ใช้ไอเดียมากขึ้นว่าถ้าเจอคำถามแบบนี้ เราจะอธิบายอย่างไรได้บ้าง ส้มมองว่าการเรียนในคลาส เราได้ทั้งการฝึกภาษาและยังได้ฟังไอเดียจากเพื่อนๆในห้องด้วย หลายคนมีไอเดียที่น่าสนใจดีค่ะ

การเรียน IELTS พาร์ท Listening และ Reading อาจารย์จะเอาตัวข้อสอบที่ใกล้เคียงกับข้อสอบจริงๆมาให้ฝึกในคลาสเลยค่ะ ในคลาส Reading หลักๆ อาจารย์จะสอนเทคนิคเพื่อให้ทำข้อสอบได้ทันเวลา โดยอันดับแรกเราต้องจับส่วนสำคัญที่เป็น Keyword ให้ได้ เพื่อที่จะหาคำตอบได้ถูกต้องค่ะ

คลาส IELTS Listening ตอนที่มาเรียนช่วงแรกๆ ส้มจับประเด็นไม่ค่อยได้ เพราะเวลาที่ฟังเสียงจากเทปในข้อสอบ IELTS จะพูดแบบนึง แต่ในคำถามจะเป็นการ Paraphrase มาอีกที ซึ่งไม่ใช่คำถามที่ใช้คำศัพท์แบบตรงๆ พอเรียนไปสักพักก็เริ่มคุ้นละว่า ตรงนี้โจทย์พูดถึงอะไร คำถามหมายถึงอะไร บางทีฟังได้ไม่เข้าใจทุกคำ แต่ก็ได้รู้ทริคที่ทำให้เราโฟกัสได้ถูกจุดว่าคำตอบน่าจะอยู่ตรงไหนค่ะ

ในส่วนของ Writing ปกติเวลาทำงานส้มจะได้เขียน E-mail อยู่แล้ว แต่มันก็คนละแบบกับ Essay ที่เขียนใน IELTS Writing ตัวส้มเองเวลาที่นึกอะไรได้ก็จะเขียนๆ ออกมาก่อน ไม่ค่อยมีรูปแบบที่เป็นทางการเท่าไหร่ พอได้เรียนก็ได้รู้ประโยคสวยๆที่ควรใช้ รวมถึงได้ Pattern ว่าต้องเขียนอะไรบ้างในแต่ละ Paragraph และการจัดลำดับความคิดก่อนที่จะเขียน ซึ่งต้องตีโจทย์ให้ออกว่าสิ่งที่ข้อสอบ IELTS ต้องการมีอะไรบ้าง แล้วค่อยเอามาปรับกับความคิดของเราอีกทีค่ะ

และการได้ Feedback จากการตรวจ Writing ช่วยได้เยอะมาก เพราะคอมเม้นท์ของอาจารย์ค่อนข้างตรง อย่างการบ้าน Writing ของส้ม อาจารย์จะบอกให้เพิ่มคำศัพท์ที่เป็น Academic Vocabulary มากกว่านี้ ส่วน Grammar ก็มีการปรับเป็นภาษาเขียนมากขึ้น เพราะที่เขียนไปบางประโยคเป็นภาษาพูดมากกว่า การได้เรียนแบบนี้ช่วยพัฒนาการเขียนของส้มขึ้นเยอะเลยค่ะ

เนื่องจากส้มต้องทำงานด้วย ก่อนไปสอบส้มเลยได้ทำ Mock-up test แค่ประมาณ 3 ครั้งค่ะ แต่ส้มจะได้การบ้านกลับไปทำทุกสัปดาห์นะคะ ผลคะแนนออกมา IELTS Overall 6.5: Listening 7.0, Reading 7.5, Writing 6.0 และ Speaking 5.5

เสียดายที่สุดก็ตรงพาร์ท Speaking นี่ล่ะค่ะ ตอนไปสอบส้มว่า ส้มได้โจทย์ที่ไม่ค่อยเหมาะกับตัวเองเท่าไหร่ ปกติถ้าส้มได้คำถามที่ไม่เคยเจอ หรือต้องแต่งเรื่องที่จะพูดขึ้นมา ส้มจะชะงักทันที แล้วสมาธิก็หลุด น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โดนหักคะแนน

ซึ่งคำถามที่ได้ก็เป็นเรื่องทั่วๆไปเกี่ยวกับ Music ถามว่าชอบฟังเพลงอะไรบ้าง ซึ่งส้มไม่ใช่คนฟังเพลงเลย ก็ตอบเลี่ยงๆไปว่าไม่ค่อยได้ฟัง แต่ Examiner ก็ยังป้อนคำถามเกี่ยวกับ Music มาเรื่อยๆ เลยต้องตอบถูๆไถๆไปก่อน ส่วน Part 2 เขาให้พูดเกี่ยวกับ Strange meal ถ้าในชีวิตจริงส้มเจออะไรแปลกๆ ส้มก็ไม่กินแล้ว แต่ตอนสอบต้องพูดอะไรสักอย่าง มันเลยต้องแต่ง เรื่องขึ้นมา ซึ่งรายละเอียดข้างในมันไม่มีอะไรเลย พูดจบสั้นๆ แบบงงๆ คิดว่าเจอคำถามที่ไม่คิดว่าจะเจอ เลยทำคะแนนได้ไม่ดีค่ะ

ประทับใจอาจารย์ที่สอนมากค่ะ เพราะดูเต็มที่กับการสอนจริงๆ รวมถึงพี่ๆสต๊าฟที่คอยตามเรื่องส่งการบ้าน และตรวจการบ้านให้ แล้วยังตามให้มาทำ Mock-up test ก่อนไปสอบด้วย ถ้าเทียบกับที่อื่นที่ส้มเคยเรียนพิเศษ เขาก็ไม่ได้ตามขนาดนี้ แค่มาเรียนแล้วก็กลับ แต่ที่นี่ใส่ใจนักเรียนทุกคนเลยค่ะ ^_^

หมายเหตุ: ผลสอบของนักเรียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบด้วย อย่างไรก็ตามทางอิงลิชพาร์คพร้อมดูแล และช่วยให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียนตามเป้าหมายที่วางไว้ค่ะ