Image Not Found

Amp IELTS 6.5

แอมป์ชอบความเป็นกันเองของที่นี่ค่ะ ทำให้เราไม่เกร็ง แล้วก็สบายใจค่ะ รู้สึกว่าเป็นอีกครอบครัวนึง สามารถเข้ามาปรึกษาได้ทุกอย่าง นอกเหนือจากเรื่องเรียน อาจารย์ทุกคนก็มีประสิทธิภาพมากพอที่จะสอนเรา สามารถทำให้เราเข้าใจได้โดยใช้เทคนิคต่างๆ โดยเฉพาะอ.จ๋าย คอยกระตุ้นให้เราดูคำศัพท์ต่างๆ ส่วนอ.วิน กับ อ. นิกกี้ก็จะคอยบอกเราว่าเราควรจะฝึกยังไง

IELTS 6.5

Listening
6.5

Reading
7.0

Writing
6.0

Speaking
6.0

Image Not Found

บทสัมภาษณ์จากน้องแอมป์ นักเรียนคอร์ส Unlimited English 1 ปี ที่สามารถสอบ IELTS ครั้งแรกได้ 6.5 เลยค่ะ ใครอยากรู้ว่าน้องแอมป์เตรียมตัวในการสอบอย่างไรบ้าง ลองอ่านบทสัมภาษณ์กันเลยค่ะ

ตอนนี้แอมป์ก็ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์อยู่ แต่แอมป์อยากเรียนต่อโท ที่ดูไว้ก็อยากขอทุนไปยุโรปค่ะ ตอนปริญญาตรี แอมป์เรียนด้าน Computer Engineering ที่มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี แอมป์เลยอยากเรียนต่อเกี่ยวกับ Media Art หรือไม่ก็ Digital media ค่ะ

แอมป์มีความคิดว่าจะเรียนต่อตั้งแต่ตอนไปฝึกงานที่เยอรมัน ตอนปี 2014 แอมป์ไปฝึกงานที่ประเทศเยอรมัน ด้าน Digital Media เลยรู้สึกชอบงานด้านนี้มาก เลยเริ่มดูว่าเราอยากไปเรียนที่ไหน พอมีทุนอะไรบ้าง เพราะแอมป์ก็ไม่อยากรบกวนพ่อแม่อีก จากนั้นก็ดูว่าแต่ละทุนเขามีเกณฑ์อะไรบ้าง อันดับแรกที่เราต้องผ่านให้ได้ก็คือภาษาอังกฤษ ซึ่งต้องสอบ IELTS ให้ได้อย่างน้อย 6.5 ค่ะ

แอมป์ก็พยายามหาที่เรียนว่าที่ไหนที่จะช่วยให้เราสามารถพัฒนาภาษาอังกฤษได้ และเอาไปสอบได้ด้วย แอมป์ไปทดสอบภาษาอังกฤษมาหลายที่นะ แล้วมีพี่ที่รู้จักแนะนำให้มาเรียนที่อิงลิชพาร์ค เพราะเขาเคยเรียนที่นี่ค่ะ แอมป์ก็เลยลองมาดู สิ่งที่ทำให้แอมป์ตัดสินใจเรียนที่ English Parks ก็คือตั้งแต่ตอนเทสอ่ะค่ะ ที่อื่นเขาจะให้ทดสอบแค่ Reading และ Listening แต่ที่ English Parks แอมป์ได้เทส Writing กับ Speaking ซึ่งเป็นจุดอ่อนของคนส่วนใหญ่ แล้วมีพี่ๆ สต๊าฟมาช่วยตรวจช่วยแนะนำด้วยว่าเราผิดตรงไหน เรามีปัญหาตรงไหนบ้าง ทำให้ง่ายต่อการวางแผนเรียนภาษาอังกฤษ

ตอนแรกแอมป์ก็คิดอยู่ค่ะว่าจะเรียนแบบ 6 เดือนหรือ 1 ปีดี แต่พิจารณาจากพื้นฐานภาษาอังกฤษของตัวเองแล้ว แอมป์ก็เลยตัดสินใจเรียนแบบ 1 ปีค่ะ จะได้ชัวร์กว่า เพราะเราก็ไม่มั่นในในศักยภาพทางภาษาอังกฤษของเราด้วยค่ะว่าภายในเวลาแค่ 6 เดือน เราจะได้ IELTS 6.5 หรือเปล่า
ตอนแอมป์มาทำเทสครั้งแรกผลที่ออกมาก็ไม่สวยงามเท่าไหร่ คือไม่แย่แต่อยู่ในระดับกลางๆ ถ้าเข้าไปเรียน IELTS เลย แอมป์ว่าไม่น่ารอด – -? ยิ่ง Grammar นี่ลืมไปหมดแล้วเพราะเราก็ทิ้งมันไป 2-3 ปีแล้วค่ะ การเลือกเรียนแบบ Unlimited English Package มันทำให้เราได้เตรียมตัวก่อนสำหรับคนที่พื้นฐานยังไม่พร้อมที่จะเรียน IELTS จริงๆ เพราะเราได้มาทบทวน Grammar ด้วยซึ่งมีผลมากๆ สำหรับการเขียน Writing และการที่เราได้คุยกับอาจารย์ฝรั่งทำให้เราสามารถคิดรูปแบบประโยคต่างๆ ได้ ตอนนั้นแอมป์มาสมัครช่วงสิ้นปี 2014 พอดีมีโปรโมชั่นแพคเกจ 1 ปี แอมป์เลยสมัครตัวนี้ค่ะ เพราะถึงแม้ว่าเราจะสอบได้ 6.5 แล้วเราก็ยังมาเรียน มาฝึกเพิ่มเติมได้เรื่อยๆ ค่ะ

แอมป์ว่าการฝึกฝนสำคัญมากค่ะ และต้องใส่ใจกับมันด้วย การที่เราฝึกทำข้อสอบมากๆ จะทำให้เราหาจุดอ่อนของตัวเองเจอและเราก็ต้องแก้มันด้วย ไม่ใช่แค่ทำเสร็จแล้วก็ปล่อยผ่านไปไม่ทบทวน แอมป์มีจุดอ่อนเยอะมากค่ะ กังวลทุกพาร์ทเลย อย่าง Listening คือหลักๆ เป็นคนที่หูไม่ดี เราก็ต้องมาฝึกจับจังหวะว่าตรงไหนเขาพูดอะไร ดูว่าข้อสอบมันหลอกเรายังไง

สำคัญมากๆ ค่ะ เพราะทุกอย่างมันต้องใช้เวลา มันไม่ใช่ว่าเราจะเก่งได้ภายในเวลาแค่แปปเดียว มันต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมาตั้งแต่แรกค่ะ เวลาในการเตรียมตัวมีผลมากๆ เลย

English Parks ช่วยแอมป์เยอะมากๆ การมาเรียนเราก็ต้องบังคับตัวเองให้มาอยู่แล้ว พอมาเรียนแล้วสนุก ทำให้เราได้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ยิ่งเรารับเยอะมากเท่าไหร่ เราได้เห็น ได้ฟังซ้ำมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เราเข้าใจและจำได้ง่ายขึ้นค่ะ การเรียน Speaking กับอาจารย์ฝรั่งตลอดเวลาก็ทำให้เรากล้าพูดด้วย ส่วนในช่วงเตรียมตัวสอบ แอมป์ก็มาที่ English Parks เกือบทุกวันเพื่อฝึกทำข้อสอบ เพราะแอมป์ไม่ชอบทำข้อสอบที่บ้าน คือเรารู้สึกว่าที่บ้านคือเวลาพักผ่อน แต่เวลาเรามาที่อิงลิชพาร์คคือบรรยากาศมันเอื้อให้เรามีสมาธิในการฝึกทำข้อสอบค่ะ สามารถจับเวลา ไม่มีใครรบกวนเราด้วย

ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ ช่วงเรียนเตรียมตัวก่อนเข้าคลาส IELTS จะเป็นแบบพัฒนาภาษาไปเรื่อยๆ แต่พอเราเข้าคลาส IELTS ปุ๊บ ทุกอย่างมันก้าวกระโดดเลย เราต้องพัฒนาไปอีกขั้นเลย ทั้งในเรื่องของคำศัพท์ต่างๆ คือทุกอย่างมันเป็นระดับ Academic หมด อ.จ๋าย มีส่วนช่วยมากๆ สำหรับการเรียน IELTS โดยเฉพาะพาร์ท Writing อาจารย์คอยช่วยแก้ประโยคให้ การ Brainstorm พวกความคิดและไอเดียต่างๆ เพื่อให้ได้คะแนนสูงๆ สอนแม้กระทั่งเรื่องการแบ่งย่อหน้า และการเลือกคำศัพท์ที่เหมาะสมกับแต่ละ Essay ที่สำคัญอ. จ๋ายจะคอยตรวจงานให้ตลอด ยิ่งเราขยันเขียนมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งพัฒนามากขึ้นเท่านั้นค่ะ นี่แอมป์นั่งนับดู แอมป์ขียนไปเกือบร้อยแล้วมั้งเนี่ย 555

แอมป์ชอบความเป็นกันเองของที่นี่ค่ะ ทำให้เราไม่เกร็ง แล้วก็สบายใจค่ะ รู้สึกว่าเป็นอีกครอบครัวนึง สามารถเข้ามาปรึกษาได้ทุกอย่าง นอกเหนือจากเรื่องเรียน อาจารย์ทุกคนก็มีประสิทธิภาพมากพอที่จะสอนเรา สามารถทำให้เราเข้าใจได้โดยใช้เทคนิคต่างๆ โดยเฉพาะอ.จ๋าย คอยกระตุ้นให้เราดูคำศัพท์ต่างๆ ส่วนอ.วิน กับ อ. นิกกี้ก็จะคอยบอกเราว่าเราควรจะฝึกยังไง ใช้เทคนิคหรือวิธีที่จะทำให้เราพัฒนาคำศัพท์ของตัวเอง เพราะแอมป์เป็นคนมีคำศัพท์น้อย

แอมป์ว่าเป็นคนที่มีพื้นฐานดีมากๆๆ อยู่แล้ว ก็อาจจะฝึกเองได้ไม่ยาก แต่ในกรณีของแอมป์ที่ เรารู้ตัวว่าพื้นฐานเราเป็นยังไง คือเราต้องรู้ตัวเองนะ 555 เราจะได้วางแผนถูก และต้องมีเวลาเตรียมตัวด้วย การมาเรียนที่ English Parks นี้ก็คือการที่เรามีคนช่วย โดยเฉพาะ Writing กับ Speaking ถ้าเราฝึกคนเดียวถ้าเราทำผิดก็คือไม่มีคนคอยแก้ และบอกสิ่งที่ถูกต้องให้ค่ะ

หลังจากอ่าน testimonial ตรงนี้แล้ว ทางโรงเรียนหวังว่าน้อง ๆ จะเกิดแรงบันดาลใจ มุ่งมั่นในการทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จกันนะคะ ^_^

หมายเหตุ: ผลสอบของนักเรียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบด้วย อย่างไรก็ตามทางอิงลิชพาร์คพร้อมดูแล และช่วยให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียนตามเป้าหมายที่วางไว้ค่ะ