Image Not Found

Mill TU-GET 610 / SAT 1120

ตอนนี้มิวรู้สึกได้ว่ามิวพูดในระดับ Academic มากขึ้น ก่อนที่จะมาเรียนก็พูดได้บ้าง แต่มันก็เป็นการใช้ทั่วๆ ไป และก็ไม่ค่อยกล้าที่จะพูดเท่าไหร่ พอมาเรียนแล้วทำให้เรากล้าพูดมากขึ้น เนื่องจากพูดแล้วมันถูกหลัก เลยทำให้มีความมั่นใจในการพูดมากขึ้นด้วยค่ะ

TU-GET

610

วันนี้มีบทสัมภาษณ์น้องมิวมาให้อ่านกันค่ะ

น้องมิวเป็นนักเรียนของ English Parks ที่นอกจากจะเพิ่งสอบติด Internation College ของมหาวิทยาลัยมหิดล (MUIC) แล้ว น้องยังสามารถทำคะแนน SAT ออกแล้วค่ะได้สูงถึง 1120 คะแนนจาก 2 Part
– Math 700 คะแนน
– Critical Reading 420 คะแนน

ซึ่งก่อนหน้าก็ไปสอบ TU-GET มาแล้ว ได้ 610 คะแนน ซึ่งเพียงพอกับการสมัครคณะ Bachelor or Economics ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตามที่น้องต้องการแล้วค่ะ ^__^

ใครกำลังเตรียมตัวสอบ MUIC, TU-GET และ SAT ลองอ่านกันดูเลยค่ะ ^^

สวัสดีค่ะ ชื่อ มิวค่ะ ตอนนี้มิวเรียนอยู่ชั้น ม. 6 หลักสูตร Mini English Program ที่โรงเรียน มัธยมวัดนายโรงค่ะ

ชอบค่ะ เพราะรู้สึกว่า มีโอกาสได้ใช้ในชีวิตประจำวัน แตกต่างจากวิชาอื่น ๆ อย่าง เลข หรือ ฟิสิกส์ ที่ต้องเอาไป apply แต่สำหรับภาษาอังกฤษ เรียนแล้วสามารถนำไปใช้ได้ทันที สามารถฝึกต่อได้เรื่อย ๆ และพัฒนาได้เรื่อย ๆ ค่ะ

มิวเรียนที่นี่ ตั้งแต่ อยู่ ม. 5 เทอม 2 ค่ะ เป้าหมายของมิวคือ เตรียมตัวไว้เพื่อจะสอบ Entrance เข้าเรียนใน มหาวิทยาลัยที่เป็น International Program ค่ะ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยมหิดล (MUIC) ซึ่งมิวก็ทราบว่านักเรียนของ English Parks หลายคนสอบเข้า MUIC ได้ค่ะ

ใช่ค่ะ เพราะหลายมหาลัย เช่น จุฬาฯ หรือธรรมศาสตร์ ในคณะ Inter บางคณะจำเป็นต้องใช้คะแนน SAT ค่ะ มิวคิดว่าเป็นการเพิ่มโอกาสให้ตัวเองด้วย

สำหรับ MUIC จะใช้คะแนน TOEFL ที่ต้องใช้ครบทุกทักษะทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน ซึ่งต้องแม่นเรื่อง Structure พอสมควร
แต่สำหรับมหาลัยอื่นจะต้องมีคะแนน SAT ด้วยค่ะ ซึ่งข้อสอบ SAT จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
– ส่วนของภาษาอังกฤษ มิวต้องเน้นคำศัพท์และ Reading มากขึ้นเพราะมิวรู้สึกว่ายากกว่า TOEFL ค่ะ
– ส่วนคณิตศาสตร์ ทำให้มิวต้องเตรียมตัวในส่วนของคณิตศาสตร์เพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
แต่ในส่วนคะแนนภาษาอังกฤษเราจะเลือกใช้คะแนน CU-TEP, TU-GET, IELTS หรือ TOEFL แทนก็ได้ค่ะ

มิวสอบ SAT ทั้งหมด 3 ครั้งค่ะ ครั้งแรก มีปัญหาเรื่องเลขบัตรประชาชนของมิวเอง คะแนนของมิวเลยไม่ออก ครั้งที่ 2 ไปสอบ ผลออกมาได้ 1,080 ค่ะ ตั้งเป้าไว้ที่ 1,100 ค่ะ ขาดอีก 20 คะแนนเอง เลยต้องมีการไปสอบครั้งที่ 3 ซึ่งได้คะแนน 1,120 ค่ะ และเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็ได้ไปสอบ TOEFL ครั้งแรก มาค่ะ ผลข้อเขียนเพิ่งออกมา คะแนนทีมิวได้ติด ระดับ College ของ MUIC เลยค่ะ ตอนนี้สัมภาษณ์ไปแล้ว ค่อนข้างมั่นใจค่ะ เพราะก่อนสัมภาษณ์ อาจารย์จ๋าย ก็ช่วยซ้อมให้ด้วย ว่าควรตอบคำถามยังไงบ้างค่ะ นอกจากนี้ก็มี TU-GET ค่ะ

สำหรับ SAT มิวมีเวลาเดือนครึ่งในการสอบรอบใหม่ค่ะ มิวเรียน SAT กับพี่หนุ่ม พี่หนุ่มช่วยมิวเยอะเลย จริงๆ มิว ไม่ค่อยขยันเท่าไหร่ พี่หนุ่มสอนเลขเป็นหลักค่ะ โดยจะเน้นการฝึกฝนทำโจทย์ เพื่อให้คุ้นกับโจทย์ให้มากที่สุด พี่หนุ่มแนะนำว่าถ้าเราฝึกฝนถึงจุดนึงโจทย์ก็จะออกคล้ายๆ เดิม ไม่ต่างจากเดิมมาก ซึ่งตรงนี้ช่วยมิวมาก ที่พี่หนุ่มย้ำอีกเรื่องก็คือเรื่องความรอบคอบ เพราะโจทย์ SAT มีหลอกตลอด ^^”
นอกจากนี้พี่หนุ่มก็จะแทรกส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษที่จำเป็นให้ด้วยค่ะ เช่นการเขียน Essay พี่หนุ่มจะแนะนำเรื่องการใช้ศัพท์ และ Grammar เพราะมิวก็ค่อนข้างอ่อนเรื่อง Grammar ค่ะ ซึ่งตรงนี้ มิวก็นำไปใช้ในการสอบอื่นๆ ได้ด้วยค่ะ อย่าง TU-GET
ในส่วนของ TOEFL มิวฝึกจากการทำข้อสอบเก่าฝึกพวก Passage เยอะพอสมควรเพราะจะได้เรื่องความอดทน ได้คำศัพท์ด้วย พอทำแล้ว อาจารย์ที่นี่จะช่วยเช็คความเข้าใจ อธิบายข้อสงสัยให้อีกที และ และการเขียน Writing ของ มหิดล พี่หนุ่มไม่ค่อยปล่อยให้ชิวมาก ให้ข้อสอบไปทำเพิ่มเติม และกระตุ้นตลอด การเตรียมตัวทำข้อสอบของ มหิดล ก็ช่วยสำหรับการนำไปใช้ สอบ SAT ด้วยเหมือนกันค่ะ

มิวพยายามมาเรียนเกือบทุกวันเลยค่ะ ในช่วงแรกก็เข้าเรียน Grammar กับอาจารย์จ๋าย พอจบแล้ว ก็เลือกเข้าคลาสที่เป็น Speaking ซะส่วนใหญ่ค่ะ ที่เข้าSpeaking เพราะต้องการสร้างความเคยชินในการใช้ และที่นี่ มีคลาส speaking ทุกช่วงเวลาด้วย ทำให้เรียนอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่คลาสทำข้อสอบอื่นๆ ก็จะเข้าด้วย อย่างคลาส IELTS ในวันอาทิตย์ คลาส CU-TEP, TU-GET เพราะเนื้อหา สามารถนำไปใช้สอบได้ค่ะ

อย่างวันจันทร์มิวจะเรียนกับพี่ Nikki ค่ะพี่เค้าจะสอนให้เรา Express Idea ออกมา สอนให้พูดแนว Academic มากขึ้น ทั้งการใช้ศัพท์และการถ่ายทอดสิ่งที่คิดอย่างเป็นระบบ ถ้าพูดผิด พี่ Nikki จะแก้ให้แล้วให้เราพูดทวนอีกรอบทำให้เราจำประโยคที่ถูกต้องนำไปใช้ได้ ส่วนคลาสที่เรียนกับ Grage มิวจะได้ความรู้ในการใช้ Grammar คู่กับ Conversation ค่ะเพราะ Grage จะสอนโดย ให้ Structure มา แล้วแต่งประโยคโดยใช้โครงสร้างตามการ์ดที่ได้รับมา ทำให้เราพูดได้อย่าง ถูก Grammar ไปพร้อมๆกันด้วยค่ะ

ตอนนี้มิวรู้สึกได้ว่ามิวพูดในระดับ Academic มากขึ้น ก่อนที่จะมาเรียนก็พูดได้บ้าง แต่มันก็เป็นการใช้ทั่วๆ ไป และก็ไม่ค่อยกล้าที่จะพูดเท่าไหร่ พอมาเรียนแล้วทำให้เรากล้าพูดมากขึ้น เนื่องจากพูดแล้วมันถูกหลัก เลยทำให้มีความมั่นใจในการพูดมากขึ้นด้วยค่ะ

มิวคิดว่าถ้าเรามาเรียน หรือได้ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน เราต้องได้อะไรเยอะอยู่แล้วค่ะ ตอนเรียนมิวตั้งใจ Focus ในเนื้อหาที่เรียน พอกลับบ้านก็ทบทวน ทำแบบฝึกหัดที่พี่ๆ ให้มาเพิ่มเติมก่อนสอบ ทั้งของ SAT และ มหิดล การเรียนที่นี่ มิวจะได้การบ้าน หรือข้อสอบ ที่พี่ๆ staff เตรียมไว้ให้กลับไปทำทุกวัน ทำให้เรารู้ประสิทธิภาพของตัวเองว่าเรายังมีจุดอ่อนอยู่ตรงไหนบ้าง ทำให้มิวแก้ไขปัญหาภาษาอังกฤษของมิวได้ตรงจุดค่ะ นอกจากนี้มิวยังได้รับคำปรึกษาในการวางแผนการสอบได้ตรงตามที่มิวต้องการอีกด้วยค่ะ

หลังจากอ่าน testimonial ตรงนี้แล้ว ทางโรงเรียนหวังว่าน้องๆ จะเกิดแรงบันดาลใจ มุ่งมั่นในการทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จกันนะคะ ^_^

หมายเหตุ: ผลสอบของนักเรียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบด้วย อย่างไรก็ตามทางอิงลิชพาร์คพร้อมดูแลและช่วยให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในการเรียนตามเป้าหมายที่วางไว้ค่ะ