เทคนิคการออกเสียงภาษาอังกฤษให้เป๊ะ ทำตามได้ไม่ยาก
เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่กำลังเรียนรู้ภาษาอังกฤษต้องเคยประสบปัญหาเรื่องของการสื่อสารภาษาอังกฤษกันมาไม่น้อย โดยเฉพาะการออกเสียงภาษาอังกฤษซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทาย ทั้งการเน้นเสียง จังหวะในการพูด การสื่อสารให้เป็นธรรมชาติ การออกเสียงภาษาอังกฤษอย่างไรให้เป๊ะเพื่อสื่อสารออกไปตรงกับความหมายที่เราจะพูด และเพื่อให้คู่สนทนาของเราเข้าใจ
English Tips วันนี้ เรามีเทคนิคการออกเสียงภาษาอังกฤษดี ๆ ที่ไม่ลับ ถ้าได้ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำทุกวัน มั่นใจได้เลยว่า การพูดออกเสียงภาษาอังกฤษของคุณจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เวลาไปพูดกับใคร ๆ ก็จะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นแน่นอน!
5 เทคนิคการออกเสียงภาษาอังกฤษ ยิ่งฝึกยิ่งเก่ง!
คัดมาแล้ว! สำหรับเทคนิคการออกเสียงภาษาอังกฤษ ที่จะทำให้เราสื่อสารภาษาอังกฤษได้เก่งยิ่งขึ้น
1. ออกเสียงภาษาอังกฤษด้วยการร้องคาราโอเกะ
การร้องคาราโอเกะเป็นเทคนิคที่ดีในการฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษ ยิ่งถ้าคนไหนที่ชื่นชอบการฟังเพลงร้องเพลงเป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว จากเดิมที่เป็นเพลงภาษาอื่นลองหันมาเปลี่ยนเป็นเพลงภาษาอังกฤษดูบ้างก็เป็นไอเดียที่ดีเหมือนกัน โดยเริ่มจากเลือกเพลงที่เหมาะกับระดับทักษะของเราเอง เปิดเนื้อเพลงและร้องออกมาพร้อม ๆ กับเสียงนักร้อง เหมือนฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษไปโดยอัตโนมัติ
2. ใช้แอปฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษ
ตอนนี้มีแอปพลิเคชันเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษถูกพัฒนาขึ้นมากมาย เรียกได้ว่าอำนวยความสะดวกให้คนที่อยากเก่งภาษาอังกฤษในทุก ๆ ทักษะเลยทีเดียว แอปฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษมีฟีเจอร์หลายอย่างที่จะช่วยให้การออกเสียงภาษาอังกฤษเป๊ะขึ้น เช่น ฝึกพูดด้วยบทสนทนาจริงมี AI พูดตอบโต้ มีแบบทดสอบไล่ระดับจากระดับง่ายไปยาก เรื่องหัวข้อเรื่องที่เราสนใจได้ ประเมินการออกเสียงและข้อผิดพลาดของเราพร้อมบอกวิธีการปรับปรุง
ใครที่ยังรู้สึกไม่มั่นใจที่จะพูดคุยกับคนจริง ๆ แอปฝึกการออกเสียงคำภาษาอังกฤษถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษไม่มีพื้นฐานเลย อยากฝึกออกเสียงที่เหมาะกับ Beginner เช่น การแยกเสียงพยัญชนะและสระ การเน้นเสียงพยางค์ จะช่วยให้เข้าใจหลักการออกเสียงภาษาอังกฤษได้ดียิ่งขึ้น
3. พูดคุยกับเจ้าของภาษาตัวจริง
การพูดคุยกับเจ้าของภาษาตัวจริงและเสียงจริง ๆ เป็นเทคนิคที่จะทำให้รู้วิธีออกเสียงภาษาอังกฤษโดยเจ้าของภาษาที่ใช้เป็นบทสนทนาในชีวิตประจำวันจริง ๆ สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นฝึกพูดฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษ ควรเริ่มด้วยประโยคสนทนาง่าย ๆ เช่น การแนะนำตัว ถามชื่อ ที่อยู่ ถามเวลา จะช่วยให้เราได้ฝึกออกเสียงคำศัพท์และประโยคพื้นฐาน เวลาที่พูดคุยกัน อย่าลืมที่จะโฟกัสโดยสังเกตการออกเสียงพยัญชนะ สระ การเน้นเสียงพยางค์ และน้ำเสียงเจ้าของภาษาระหว่างสนทนา
สิ่งสำคัญคือเราต้องพยายามที่จะออกเสียงตาม ออกเสียงให้ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ข้อดีอีกหนึ่งอย่าง คือเราจะได้รับคำแนะนำเรื่องการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง เป็นธรรมชาติ หากไม่แน่ใจว่าการออกเสียงของตนถูกต้องหรือไม่ สามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าของภาษาได้ และก็จะคุ้นชินกับภาษาอังกฤษมากขึ้น รู้ว่าคำนี้เขาพูดว่าอะไร คำศัพท์ หรือวลีใหม่ ๆ อีกด้วย ยิ่งถ้าได้มีโอกาสพูดคุยกันอย่างเป็นประจำ เราจะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างแข็งแรง คล้ายกับเจ้าของภาษา
ที่ Englishparks ก็มีคอร์สที่สามารถเลือกเรียนกับครูเจ้าของภาษาเหมือนกันนะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก! เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว
4. ออกเสียงภาษาอังกฤษโดยการใช้เสียงเชื่อมให้เหมือนเจ้าของภาษา
เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าภาษาอังกฤษมีการใช้เสียงเชื่อม หรือที่เรียกว่า Linking sound เป็นการเชื่อมคำโดยใช้พยัญชนะที่เป็นตัวสะกดของคำแรกเชื่อมเสียงกับสระของคำท้าย เช่น คำว่า come on ปกติเราจะออกเสียงว่า ‘คัม-ออน’ แต่ถ้าอยากให้เป๊ะเหมือนเจ้าของภาษาพูดควรออกเสียงแบบเชื่อมเสียงว่า ‘คัม-มอน’ นั่นเอง
วิธีใช้เสียงเชื่อมเป็นหนึ่งในลักษณะของการออกเสียงภาษาอังกฤษ เมื่อรู้เทคนิคอย่างนี้แล้ว อย่าลืมการฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษด้วยเสียงเชื่อมบ่อย ๆ และนำไปใช้เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้การพูดภาษาอังกฤษมีความเป็นธรรมชาติ ลื่นไหล สำเนียงถอดแบบเจ้าของภาษา อีกทั้งยังเหมือนเพิ่มสกิลทักษะการฟังให้กับตนเอง เพราะเมื่อเรารู้แล้วว่าคำนี้ออกเสียงแบบนี้ เวลาสื่อสารก็จะง่ายและฟังภาษาอังกฤษออกมากขึ้นไม่มีสะดุด ทีนี้จะไปสอบวัดระดับภาษาอังกฤษเกี่ยวกับทักษะการพูดที่ไหนก็มั่นใจ หมดความกังวลไปได้เลย
5. ฟัง Podcast แล้วฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษตาม
พัฒนาการออกเสียงภาษาอังกฤษด้วยการฟัง Podcast ก็เป็นอีกเทคนิคที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากเดิมที่เคยฝึกการออกเสียงในภาษาอังกฤษโดยฟังเพลงภาษาอังกฤษ สลับมาฟัง Podcast เปลี่ยนบรรยากาศก็ดีเหมือนกันนะ เพราะ Podcast โดยส่วนใหญ่จะเป็นเสียงคนพูดเล่าเรื่อง หรือสนทนาระหว่างกัน บางคนพูดเร็ว บางคนพูดช้า ตรงนี้จะทำให้เราได้ทั้งฝึกออกเสียงตามและฝึกฟังไปพร้อม ๆ กัน
เราสามารถเลือกเรื่องราว เนื้อหาที่อยากฟังได้ตามที่ตัวเองสนใจจากแชนเนลทั้งของคนไทยและต่างประเทศ Podcast แต่ละแชนเนลมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป บาง Podcast จะมีสคริปต์ ลิสต์คำศัพท์ให้ดาวน์โหลดไว้สำหรับคนที่อยากฝึกออกเสียง เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกคนที่อยากเก่งภาษาอังกฤษ
ฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษกับโรงเรียนสอนภาษา ดีอย่างไร
การออกเสียงภาษาอังกฤษกับโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเยี่ยม เพราะจะทำให้เราเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษจะมีคอร์สเรียนที่เน้นไปในเรื่องของการสอนอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ จากครูผู้สอนที่มีความรู้และประสบการณ์ในการสอนภาษาอังกฤษที่สั่งสมมานาน ยิ่งเรื่องการออกเสียงภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นครูไทยหรือครูต่างชาติสามารถช่วยให้เข้าใจหลักการออกเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง และฝึกฝนจนออกเสียงได้คล่องแคล่ว สื่อสารได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
มีหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ หลักสูตรเหล่านี้จะครอบคลุมหลักการออกเสียงภาษาอังกฤษที่สำคัญทั้งหมด จะช่วยให้เราฝึกฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เรียนออกเสียงภาษาอังกฤษกับโรงเรียนสอนภาษา Englishparks
ถ้าใครคนไหนสนใจคอร์สเกี่ยวกับการออกเสียงภาษาอังกฤษ ทาง Englishparks มีคอร์สที่ชื่อว่า Pronunciation เหมาะสมอย่างมากสำหรับผู้เรียนที่ต้องการฝึกฝนทักษะด้านการพูด (Speaking) เน้นการออกเสียงภาษาอังกฤษให้สำเนียงเป๊ะเหมือนกับเจ้าของภาษา เพราะผู้สอนก็คือ Native Speaker ครูเจ้าของภาษามาสอนออกเสียงเอง และมีประสบการณ์ด้านการสอนมากกว่า 10 ปี
คอร์ส Pronunciation จะมาเรียนคนกับเดียวกับเพื่อคนอื่น ๆ หรือจะชวนเพื่อน ๆ มาเป็นก็ได้เช่นกัน ในคลาสเรียนเป็นกลุ่มเล็ก จำนวนนักเรียน 7 – 15 คนต่อห้อง มีข้อดีเพื่อให้ผู้เรียนทุกคนสื่อสารกับครูได้อย่างทั่วถึง มีคำถามใดสงสัยสามารถสอบถาม และครูพร้อมที่จะตอบคำถามผู้เรียนเสมอ อีกทั้งเนื้อหายังมีความทันสมัย ปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย รับประกันความสนุกที่จะมาพร้อมความรู้
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เรื่องการออกเสียงภาษาอังกฤษ
การออกเสียงภาษาอังกฤษ ใช้เวลาฝึกนานไหม
ระยะเวลาที่ใช้ในการฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษให้ถูกต้องนั้นของแต่ละคนจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พื้นฐานความรู้ภาษาอังกฤษเดิม ความสามารถในการเลียนแบบเสียง และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
ถ้าคุณเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ จากระดับพื้นฐานอาจต้องฝึกตั้งแต่การออกเสียงพยัญชนะอังกฤษ ใช้เวลาฝึกออกเสียงอย่างน้อย 3-6 เดือนจึงจะสามารถออกเสียงคำศัพท์และประโยคพื้นฐานได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียงภาษาอังกฤษ ในระดับการสนทนาในชีวิตประจำวัน หรือสำหรับใครที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ดีอยู่แล้ว อาจใช้เวลาฝึกออกเสียงน้อยลง โดยอาจใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือนก็สามารถออกเสียงได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียงภาษาอังกฤษในระดับดีได้
ควรฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษ วันละกี่ครั้ง
การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญในการปรับปรุงและพัฒนาการออกเสียงภาษาอังกฤษ ผู้ฝึกควรฝึกออกเสียงอย่างเป็นประจำวันละครั้ง หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เพื่อให้สมองจดจำเสียงและฝึกกล้ามเนื้อในปากคุ้นเคยกับวิธีการออกเสียงที่ถูกต้อง
สรุปการออกเสียงภาษาอังกฤษ ต้องฝึกบ่อย ๆ เพื่อเพิ่มความคุ้นเคย
เทคนิคต่าง ๆ ที่นำมาแนะนำกันในบทความนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้เรียนสามารถนำไปปรับใช้ในการฝึกพูด เพื่อเพิ่มความคุ้นเคยการออกเสียงภาษาอังกฤษให้กับ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรื่องการพูดออกเสียงภาษาอังกฤษคือ การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ แรก ๆ อาจจะดูเป็นเรื่องยากแต่ถ้าเรามีวินัยและความตั้งใจ มั่นใจได้เลยว่าเราจะพูดได้คล่องแคล่ว สื่อสารได้อย่างลื่นไหล สำเนียงเป๊ะคล้ายกับเจ้าของภาษาอย่างแน่นอน
ลองเลือกดู คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ ที่เหมาะกับคุณ ได้เลยที่นี่ !