แนะนำวิธีเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง และดูเป็นมืออาชีพ

เรซูเม่ (Resume) เปรียบเสมือนประตูด่านแรกที่จะทำให้ผู้ว่าจ้างหรือบริษัทได้รู้จักตัวตน ความสามารถ และประสบการณ์ของผู้สมัครงาน โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่หลาย ๆ บริษัทต้องการบุคคลที่มีทักษะด้านภาษาอังกฤษ ดังนั้นเรซูเม่ภาษาอังกฤษจึงมีความสำคัญเพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงทักษะและความสามารถด้านภาษาของผู้สมัคร ทั้งยังช่วยเพิ่มความโดดเด่นในสายตาของผู้ว่าจ้างอีกด้วย
ในบทความนี้ โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ Englishparks จะมาแนะนำวิธีเขียนเรซูเม่สมัครงานภาษาอังกฤษให้ถูกต้องและดูเป็นมืออาชีพ สามารถนำไปใช้สมัครงานกับบริษัทที่สนใจ และช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานให้มากขึ้น
เรซูเม่ภาษาอังกฤษ ต้องระบุข้อมูลอะไรบ้าง

หัวใจหลักของการเขียนเรซูเม่คือความกระชับ เน้นข้อมูลสำคัญให้จบภายใน 1 หน้ากระดาษ ซึ่งโดยปกติแล้วการเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษจะประกอบด้วย 6 ส่วน ดังนี้
Heading and Career Objective
เป็นส่วนของหัวเรื่องและจุดมุ่งหมายในการทำงาน เปรียบเสมือนเป็นการเกริ่นนำให้กับเรซูเม่ภาษาอังกฤษของผู้สมัคร ในส่วนนี้จะต้องระบุชื่อ-นามสกุลและตำแหน่งงานที่สนใจ พร้อมด้วย Career Objective ที่บอกความคาดหวังหรือวัตถุประสงค์ของการสมัครงานในตำแหน่งนี้ อาจเล่าถึงประสบการณ์การทำงานสั้น ๆ เพื่อให้ HR รู้จักตัวตนคร่าว ๆ หรือบอกถึงเป้าหมายหรือสิ่งที่ต้องการพัฒนาตัวเองในสายงาน และอย่าลืมระบุถึงเงินเดือนที่คาดหวังด้วย
Personal Information
เป็นส่วนของข้อมูลส่วนตัวของผู้สมัคร ในส่วนนี้จะต้องใส่รูปภาพที่เห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจนและแต่งกายสุภาพ พร้อมกับข้อมูลการติดต่อภาษาอังกฤษ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล นอกจากนี้อาจเพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีโซเชียลมีเดีย เช่น LinkedIn ด้วยก็ได้
Work Experience
ส่วนนี้จะเป็นการระบุข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา โดยเริ่มจากงานล่าสุดเรียงลำดับไปหางานเก่าที่สุด สามารถเลือกเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัครก็ได้ ไม่ต้องยกมาทั้งหมด เพื่อความกระชับของข้อมูล ส่วนการเขียนประสบการณ์ทํางานภาษาอังกฤษ จะต้องระบุชื่อบริษัท ตำแหน่งงาน ระยะเวลาที่ทำงาน และหน้าที่ความรับผิดชอบ ควรเขียนย่อสั้น ๆ แต่ได้ใจความสำคัญ
Education
ส่วนนี้จะเป็นการระบุข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ให้เขียนประวัติการศึกษาภาษาอังกฤษโดยเรียงลำดับจากระดับการศึกษาสูงสุดที่เรียบจบไล่ระดับลงไป เช่น เรียงลำดับจากปริญญาเอกลงไปหาปริญญาตรี โดยหลักการเขียนประวัติการศึกษาภาษาอังกฤษ ต้องเริ่มจากระบุช่วงปีที่ศึกษา วุฒิการศึกษา ชื่อของคณะหรือสาขา และชื่อสถาบัน ตามลำดับ
Skills
ส่วนนี้จะเป็นการระบุข้อมูลเกี่ยวกับทักษะและความสามารถของตัวผู้สมัคร เป็นส่วนสำคัญที่ควรระบุลงไปในเรซูเม่ภาษาอังกฤษให้ครบถ้วนและเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร การเขียน Skill ใน Resume ภาษาอังกฤษมีเทคนิคง่าย ๆ คือเขียนอธิบายเป็น Bullet Point ให้ HR อ่านง่าย ควรเขียนทักษะ Hard Skill ที่ต้องใช้ในการทำงานในตำแหน่งที่สมัครไว้ลำดับแรก ๆ เช่น ทักษะเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตามด้วยทักษะ Soft Skill เช่น ทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทักษะการทำงานเป็นทีม เป็นต้น ควรเขียนให้กระชับ อ่านง่าย และจบใน 1 บรรทัดต่อ 1 ทักษะ
References
ส่วนนี้จะเป็นการระบุข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลอ้างอิง ให้ใส่ชื่อ-นามสกุลบุคคลอ้างอิงตัวตนของผู้สมัคร เช่น อดีตหัวหน้างาน อดีตเพื่อนร่วมงาน หรือผู้ที่สามารถรับรองความสามารถของผู้สมัครได้ พร้อมเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลสำหรับติดต่อ
เขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษ ควรจัดเรียงข้อมูลอย่างไรให้น่าอ่าน
ความจริงแล้วผู้สมัครงานสามารถออกแบบและเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษได้อย่างอิสระ ไม่มีกฎตายตัวว่าต้องจัดวางแบบไหน หรือต้องออกแบบหน้าตาเรซูเม่อย่างไร แต่สิ่งสำคัญคือความเหมาะสมกับตำแหน่งงานหรือบริษัทที่สมัคร รวมถึงการลำดับความสำคัญข้อมูลและการจัดวางข้อมูลให้อ่านง่าย ไม่รกตา ดูน่าเชื่อถือ และมีความเป็นมืออาชีพ Englishparks อยากแนะนำให้ผู้สมัครจัดเรียงข้อมูลในแต่ละส่วนให้มีระยะห่างแบบพอดี โดยเรียงลำดับดังนี้
- ขึ้นต้นด้านบนด้วยรูปถ่าย พร้อมเขียนชื่อ-นามสกุลตัวใหญ่ เพื่อให้ HR รู้ว่าเราเป็นใคร
- ระบุช่องทางการติดต่อให้ครบถ้วน ถูกต้อง และชัดเจน
- เขียนแนะนำตัวสั้น ๆ หรือเขียน Career Objective เพื่อโน้มน้าว HR ให้อ่านประวัติของเราต่อ
- เขียนประวัติการทํางานภาษาอังกฤษโดยเรียงจากปัจจุบันลงไปหาอดีต
- เขียนทักษะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร เรียงจาก Hard Skill ไป Soft Skill ส่วนนี้อาจจะระบุคะแนน IELTS, คะแนน TOEIC ที่แสดงถึงระดับภาษาอังกฤษลงใน Resume ด้วยก็ได้
- เขียนประวัติการศึกษาโดยเรียงจากระดับปริญญาสูงสุดที่จบการศึกษา กรณีเป็นเด็กจบใหม่อาจใส่ข้อมูลการศึกษาระดับมัธยมหรือระดับ ปวช. ลงไปด้วยได้ แต่ถ้ามีประสบการณ์ทำงานมาสักพักแล้วแล้วก็ไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลตรงนี้
- ส่วนสุดท้ายคือบุคคลอ้างอิง ถ้ามีก็สามารถเขียนลงไปได้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
เทคนิคเพิ่มความน่าสนใจให้เรซูเม่ภาษาอังกฤษเพื่อให้โดนใจ HR

ในแต่ละวัน HR ต้องพิจารณาผู้สมัครจากเรซูเม่หลายฉบับ สิ่งที่ผู้สมัครอย่างเราทำได้คือการทำให้เรซูเม่โดดเด่นและน่าสนใจกว่าคนอื่น ต่อไปนี้คือเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยให้เรซูเม่ภาษาอังกฤษของเรามีความน่าสนใจและโดนใจ HR มากขึ้น
ข้อมูลอัปเดตล่าสุด
ในการเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษทุกครั้ง ควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าเรซูเม่มีข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน เช่น ข้อมูลการติดต่อ ตำแหน่งงานล่าสุด หน้าที่ความรับผิดชอบ หรือทักษะที่มี ข้อมูลอัปเดตเหล่านี้จะช่วยให้ HR มองเห็นภาพรวมและประเมินผู้สมัครได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
รูปโปรไฟล์ที่ดูมืออาชีพ
ถ้าต้องใส่รูปภาพในเรซูเม่ภาษาอังกฤษ ควรใช้รูปถ่ายที่ดูสุภาพและเป็นทางการ เห็นใบหน้าชัดเจน สวมใส่เสื้อผ้าที่สุภาพ หลีกเลี่ยงการใช้รูปเซลฟี่หรือรูปในลักษณะไม่เหมาะสม เพราะรูปภาพบนเรซูเม่สามารถบ่งบอกภาพลักษณ์ของผู้สมัคร ความตั้งใจ รวมถึงความเป็นมืออาชีพ ดังนั้นต้องสร้างความประทับใจแรกด้วยรูปภาพให้ได้
รูปแบบการจัดเรียงที่อ่านง่ายและกระชับ
การเขียนข้อมูลต่าง ๆ ในเรซูเม่ภาษาอังกฤษควรเขียนให้กระชับให้มากที่สุด จัดวางข้อมูลต่าง ๆ ให้อ่านง่าย และมีช่องว่างที่เหมาะสม ควรเลือกใช้ฟอนต์ทางการที่อ่านง่าย หลีกเลี่ยงฟอนต์สวยงาม ฟอนต์ลายมือ หรือฟอนต์รูปแบบแฟนซีต่าง ๆ เพราะนอกจากจะอ่านยากแล้วก็ยังดูไม่เป็นมืออาชีพอีกด้วย ข้อมูลส่วนไหนที่มีรายละเอียดเยอะควรแบ่งเป็นหัวข้อย่อยหรือใช้ Bullet Point ช่วยแยกข้อมูลสำคัญให้อ่านง่ายและน่าสนใจ
ความถูกต้องของการสะกดคำและไวยากรณ์
การสะกดคำหรือไวยากรณ์ที่ผิดพลาดอาจทำให้เรซูเม่ภาษาอังกฤษดูไม่น่าเชื่อถือและขาดความเป็นมืออาชีพ ซึ่งหลายคนเตรียมข้อมูลมาดีแต่ก็มาตกม้าตายตรงจุดนี้อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นก่อนส่งเรซูเม่ควรตรวจทานการสะกดคำและไวยากรณ์อย่างละเอียดทุกครั้ง สิ่งนี้จะแสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมถึงความตั้งใจจริงของผู้สมัคร ซึ่งสามารถสร้างความประทับใจให้ HR ได้อีกด้วย
การตั้งชื่อไฟล์เรซูเม่ภาษาอังกฤษที่เหมาะสม
ในเมื่อทำเรซูเม่ภาษาอังกฤษแล้วก็ควรตั้งชื่อไฟล์เป็นภาษาอังกฤษให้ชัดเจนและดูเป็นมืออาชีพ ควรใช้ชื่อของผู้สมัครมาตั้งเป็นชื่อไฟล์ เช่น “Firstname_Lastname_Resume.pdf” เพื่อให้ HR สามารถค้นหาและจดจำเรซูเม่ได้ง่าย หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อเฉพาะ ชื่อที่อ่านยาก ๆ หรือชื่อแปลก ๆ ที่ HR ไม่เข้าใจ
ความแตกต่างระหว่าง Resume กับ CV มีอะไรบ้าง
ทั้ง Resume และ CV เป็นเอกสารที่ใช้สำหรับการสมัครงานเหมือนกัน แต่ทั้งสองอย่างมีความแตกต่างกันในด้านรูปแบบการเขียนและเนื้อหา Resume เป็นเอกสารประวัติย่อที่ระบุข้อมูลของผู้สมัครแบบสรุป เน้นเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัครเป็นหลัก ได้แก่ ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการติดต่อ ประสบการณ์การทำงาน ทักษะ และประวัติการศึกษา โดยการเขียนจะมีความกระชับ และมักจะมีความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ เหมาะสำหรับใช้สมัครงานทั่วไปที่ไม่ต้องการข้อมูลเชิงลึกใด ๆ เป็นพิเศษ
ขณะที่ CV (Curriculum Vitae) เป็นเอกสารประวัติส่วนตัวที่มีรายละเอียดมากกว่า Resume โดยจะรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน ทักษะ คุณสมบัติ ความสำเร็จในสายงาน รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในสายอาชีพ การฝึกอบรม รางวัลหรือเกียรติคุณที่เคยได้รับ มักใช้สำหรับการสมัครงานในสายวิชาการ หรืองานในสายอาชีพเฉพาะที่ต้องการคุณสมบัติของผู้สมัครที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานนั้น ๆ มากเป็นพิเศษ โดยทั่วไปจะมีความยาวมากกว่า 2 หน้ากระดาษขึ้นไป
ทั้งนี้ การเลือกใช้ Resume หรือ CV ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและลักษณะงาน รวมถึงข้อกำหนดและความต้องการของบริษัทที่สมัคร ทางที่ดีผู้สมัครควรจัดทำทั้ง CV และ Resume เป็นภาษาอังกฤษเพื่อเพิ่มโอกาสในการสมัครงาน
เรียนรู้การเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษ และเพิ่มทักษะภาษาสำหรับชีวิตการทำงานได้ที่ Englishparks
ทุกคนสามารถฝึกเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ แต่หากต้องการเรียนรู้การเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง มีคุณภาพ และดูเป็นมืออาชีพ รวมถึงเพิ่มทักษะภาษาด้านต่าง ๆ เพื่อการทำงาน เช่น การเตรียมตัวสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษเพื่อเพิ่มโอกาสในการถูกรับเข้าทำงานในบริษัทต่างชาติ สามารถมาเรียนภาษาอังกฤษเสริมทักษะด้านการฟัง พูด อ่าน เขียน ได้กับสถาบันสอนภาษา Englishparks
สถาบันของเรามีคอร์สเรียนเขียนภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นคอร์สที่ช่วยพัฒนาทักษะด้านการเขียนภาษาอังกฤษให้ถูกต้องและเหมาะสมกับบริบทการใช้งานด้านต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถเรียนควบคู่กับคอร์สเรียน Grammar เพื่อนำไปใช้ในการแต่งประโยคภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ ซึ่งมีประโยชน์มากต่อการเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษ และเขียน Email สมัครงานภาษาอังกฤษ แสดงถึงทักษะด้านภาษาอังกฤษที่ดีและความเป็นมืออาชีพในสายตาของ HR ช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์งานได้มากขึ้น
เรซูเม่ภาษาอังกฤษ ประตูสู่โอกาสในโลกการทำงาน
การเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษให้ถูกต้องและดูเป็นมืออาชีพจะช่วยให้ HR มองเห็นถึงทักษะ ความสามารถด้านภาษา และคุณค่าของเราในฐานะผู้สมัคร ความละเอียดในการจัดทำเรซูเม่ที่ถูกต้อง ชัดเจน ตรงประเด็น จะช่วยสะท้อนถึงความตั้งใจและความพร้อมในตำแหน่งงานที่สมัคร รวมถึงยังเป็นโอกาสในการแสดงความสามารถและทักษะที่มี การลงทุนเวลาในการเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการเริ่มต้นเส้นทางอาชีพที่มั่นคงและประสบความสำเร็จ
หากสนใจคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับพัฒนาตัวเองและพัฒนาทักษะด้านภาษาเพื่อการทำงาน สามารถดูรายละเอียดคอร์สเรียนของ Englishparks ได้ที่เว็บไซต์ https://englishparks.in.th/about-us/